Solana(SOL) คืออะไร? อนาคตของเหรียญ SOL เป็นอย่างไร?

Solana เป็นบล็อกใหม่ที่เติมไปด้วย Innovation ใหม่ๆมากมายที่พร้อมจะมาเปลี่ยนแปลงโลกของ Blockchain, Platform อันสุดยอดนี้สามารถที่จะสร้าง Transaction ได้มากสุดถึง 50,000 Transaction ต่อวินาที (เมื่อเทียบกับ Bitcoin ที่ทำได้เพียง 4.6 Transaction / วินาที)

เป็นไปได้อย่างไร? อะไรทำให้ Solana ทำเช่นนี้ได้? เราจะไปวิเคราะห์กันว่าด้วยเทคโนโลยีอะไรทำให้ Solana ดีถึงขนาดนี้ได้ และมันจะมาเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร

ความเป็นมาของ Solana

Anatoly Yakovenko ผู้เคยก่อตั้ง Qualcomm และ Dropbox ได้สร้าง Solana ขึ้นในปี 2017 ด้วยการโพสต์ Whitepaper ลงไป เขาเป็น Software Engineer และมีประสบการณ์ในการเขียนโค้ดมามากมาย ร่วมกับ Eric Williams Solana CTO, Greg Fitzgerald และทีม พวกเขามุ่งมั่นที่จะสร้างให้ Solana เป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูง เชื่อถือได้ และกระจายศูนย์ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะแก้ปัญหาที่ Bitcoin และ Ethereum ไม่สามารถทำได้

Solana Whitepaper เป็นผลงานแรกที่บ่งบอกวิธีประมวลผลด้วย Proof-of-History ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นวิธีแบบใหม่ในการจดเวลาและกระจายศูนย์ของ Blockchain

ทีมได้ทดลองออก Testnet เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ด้วยบริษัท Solana Labs โดยเรียกสั้นๆว่า Loom โดยไม่ให้คนเข้าใจผิดกับ Loom Network ซึ่งเป็น Multichain interoperability 

Solana ระดมทุนได้ทั้งหมด $5 ล้านดอลล่าร์ ภายใน seed round 2 รอบ กลายเป็น Series A ทันทีภายในปี 2019, Solana Labs ได้รับ $20 ล้านดอลล่าร์ ภายใน Series A จาก Multicoin Capital หลังจากที่ได้ประมูลขายหุ้นไปใน CoinList, Solana ก็ได้รับทุนมาอีก $1.76 ล้านดอลล่าร์

Beta Mainnet ได้เปิดตัวไปในมีนาคม 2020 ด้วยฟีเจอร์ของการรองรับการทำธุรกรรมและ Smart Contacts

ปัจจุบันทีม Solana ถือว่าเป็นบริษัทระดับโลกเป็นที่เรียบร้อย เทียบเท่า Apple, Qualcomm, Intel, Google, Microsoft, Twitter, Dropbox และบริษัทต่างๆ โดยที่ Solana นั้นได้รับการยอมรับจากนักลงทุนมากตา เริ่มจาก Multicoin Capital, Foundation Capital, Slow Capital, CMCC Global, Abstract Ventures และอื่นๆอีกมากมาย

ในตอนนี้ Solana Labs ได้กลายมาเป็นผู้บริหารหลักของ Solana ซึ่งถูกก่อตั้งเป็น องค์กรการกุศล เพื่อที่จะพัฒนาและออกเงินทุนสนับสนุนให้แก่ Application ที่จะมาสร้างบน Solana อีกที

Solana(SOL)

Solana คืออะไรกันแน่?

ต้องขอบคุณ Blockchain ที่ทำให้เราโอนเงินกันแบบ Decentralized กันได้ในปัจจุบัน แต่เทคโนโลยี Blockchain ในปัจจุบันนั้นยังมีข้อเสียอยู่ คือ ‘มันช้า’ ให้ลองมาดูกันที่ Ethereum เราจะเห็นได้ว่ามันสามารถสร้างได้เพียง 15 Transaction / วินาทีเท่านั้น เมื่อเทียบกับ Visa ที่สามารถสร้างได้กว่า 1,000 Transaction/ วินาที

และนี้แหละคือปัญหาที่ Solana จะเข้ามาแก้!

Solana คือ Blockchain ที่ถูกดีไซน์มาเพื่อสร้างธุรกรรมที่รวดเร็ว โดยยังคงไว้ซึ่งการกระจายศูนย์อยู่ โดยใช้ระบบประมวลผลที่เรียกว่า Proof-of-history โดยมีเหรียญชื่อว่า SOL เป็นเหรียญของ Chain นี้ โดยเหรียญนั้นสามารถที่จะใช้เพื่อจ่ายเป็นค่าทำธุรกรรมบน Chain ได้และยังสามารถนำไป Stake ได้อีกด้วย ซึ่ง Solana นั้นจึงเป็นคู่แข่งทางตรงของ Etheruem

อะไรคือ Programmable Blockchain?

ไม่เหมือน Bitcoin ที่มันนั้นทั้งใหญ่และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ Solana นั้นมี Smart contacts ซึ่งประกอบไปด้วยโค้ดที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อกระทำการบางสิ่งบางอย่าง

Ethereum นั้นใช้ Smart contact เพื่อสนับสนุนการสร้าง Application แบบ Decentralized ขึ้น (dApps) เช่นกัน โดยที่ dApps ต่างๆนั้นจะถูกผูกติดอยู่กับ Network

โดยที่ Ethereum นั้นสามารถสร้างธุรกรรมได้เพียงแค่ 15 อันต่อวินาที เมื่อเทียบกับ dApps ที่นับวันจะมีแต่โตขึ้นแล้ว นี้เป็นปัญหาใหญ่ของ Chain ซึ่งทำให้ค่า fee ของ Ethereum นั้นแพงหูฉีก และทำให้นักขุดนั้นหันมาขุด Ethereum กันมากขึ้น ทำให้เกิดมลภาวะมากขึ้นด้วย Proof-of-work

จนกว่า ETH 2.0 จะออกมาได้นั้น เราควรจะมี Blockchain ที่สามารถมาช่วยให้ Developer มาสร้างด้วยราคาที่ถูกขึ้นได้หรือไม่? ETH2.0 เหมือนว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2022 แต่ถ้าให้เทียบในปัจจุบัน Solana ก็ยังเป็น Blockchain ที่มีความรวดเร็วที่สุดอยู่

Solana นั้นมี Function ของ Proof-of-stake มาอีกด้วย ซึ่งจะอยู่บน State-of-the-art อีกที

Solana เร็วได้ด้วยอะไรหน่ะหรือ? ประกอบไปด้วยเทคโนโลยี 8 อย่างนี้เลย!

  • Proof-of-history
  • Tower BFT
  • Gulf Stream
  • Turbine
  • Sealevel
  • Pipelining
  • Cloudbreak
  • Archivers

PoH: อะไรคือ Proof-of-history?

Solana Blockchain นั้นใช้ Proof-of-history algorithm ซึ่งไม่ได้ยึดถือตามนาฬิกา Cryptographic แบบ Bitcoin หรือ Ethereum แต่ด้วยระบบ PoH นั้นทำให้ Solana เร็วอย่างเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับ Chain อื่นๆ นั้นเป็นเพราะว่าแต่ละ Node นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องสื่อสารผ่าน Validator แต่ว่าทุก Validator นั้นจะลงมติเชื่อใจ Time order of the event รวมกันบน Chain

ด้วยการที่นับเฉพาะแค่ Transaction event ระบบมันจึงสามารถ Validate แต่ละ Block ได้โดยที่ไม่ต้องนับจากทั้งเชนก่อนหน้า พูดง่ายๆคือแยกกันตรวจสอบ โดยที่ข้อมูลนั้นจะถูกแยกกันแล้วเมื่อเอาข้อมูลมาต่อกันแล้วจะได้ความถูกต้องเหมือนเดิมพอดี

ระบบ PoH นั้นใช้ได้ผลต้องให้เครดิต Nodes ที่แต่ละ Nodes นั้นจะมีนาฬิกาเป็นของตัวเอง แล้วนั้นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เครือข่ายนั้นมีประสิทธิภาพ

ในขณะที่ Bitcoin ใช้ Proof-of-work ซึ่งต้องการ Miner เป็นจำนวณมากในการตรวจสอบธุรกรรมและสร้าง Bitcoin ขึ้นมาใหม่ โดยแต่ละ Block ใหม่นั้น Miner จำเป็นที่จะต้องยอมร่วมฉันทามติก่อนหน้าเพื่อที่จะสร้าง Transaction ใหม่

ผู้สร้าง Solana นั้นได้บันทึกไว้ใน Whitepaper ว่า Proof-of-work ที่ Bitcoin ใช้นั้น มีประสิทธิภาพเหมือนกันกับ Decentralized clock ของ Solana

โดยในระบบ Centralized แบบปกตินั้น มันไม่จำเป็นต้องมีนาฬิกาเหมือนใน Blockchain เนื่องจากแต่ละ Node นั้นสามารถเชื่อใจกันได้อยู่แล้วด้วย Timestamp ที่ถูกต้อง

PoH จึงใช้ระบบเดียวกันกับแบบ Centralized ที่แทนที่จะต้องเชื่อใจ Block ก่อนหน้า ก็เป็นเชื่อใจ Timestamp ก่อนหน้าไปเลย ซึ่งจะแบ่งให้ Validator แต่ละตัวแยกกันทำงาน ทำให้เกิดความรวดเร็วขึ้นอย่างมากและประหยัดพลังงาน

Tower BFT: ระบบตรวจสอบบัญชีแบบ Byzantine Fault Tolerance

Solana ได้สร้างระบบ Byzantine fault tolerance ขึ้นโดยเรียกง่ายๆคือ pBFT คือวิธีในการรีดประสิทธิภาพสูงสุดของ PoH โดยการที่ PoH ได้ใช้การแบ่ง Block ให้แต่ละ Node ตรวจสอบแทนการที่ให้ทุก Node มารุมตรวจสอบทีละ Block แล้วค่อยต่อกัน ซึ่งวิธีนี้ทำให้ความเร็วของการตรวจสอบนั้นเร็วขึ้นอย่างมาก

Turbine: ระบบปฎิบัติการของ Solana

Solana นั้นได้ใช้ระบบ Turbine ในการทำให้ Blockchain นั้น Approve ได้ไวขึ้นด้วยการแยก Data ที่รวมกันเป็นขนาดใหญ่ให้แบ่งย่อยเป็นขนาดเล็ก ซึ่งขนาดเล็กนั้นจะสามารถส่งข้อมูลผ่าน block ได้ไวยิ่งขึ้น

Sealevel: Smartcontact คู่ขนาน
ความรวดเร็วในการส่งข้อมูลของ Solana นั้นจะเป็นไปไม่ได้หากปราศจาก Sealevel engine ซึ่งสามารถทำให้ Transaction นั้นรวดเร็วควบคู่ไปกับการตรวจสอบบัญชี ด้วยระบบนี้ทำให้ Solana เป็นระบบที่รวดเร็วเมื่อเทียบกับ Blockchain อื่นๆ 

Gulf Stream: แพลตฟอร์มบริหาร mempool แห่ง Solana
Gulf stream คือแพลตฟอร์มที่ลดเวลาในการคอนเฟิร์ม Transaction ของ Solana หมายความว่าปกติแล้วเมื่อเกิด Transaction ขึ้นบน Solana, ธุรกรรมทั้งหมดจะถูกรวบรวมให้ไปคอนเฟิร์มในตอนท้ายแม้ว่าข้อมูลจะมายังไม่ครบถ้วน แต่การส่งข้อมูลนั้นก็เป็นไปได้แล้ว การทำเช่นนี้จะทำให้ลดเวลาของการส่งข้อมูลไปได้ เนื่องจาก Solana สามารถเชื่อใจในระบบนาฬิกาของแต่ละ Node ได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Solana จึงมี 50,000 Transaction ต่อวินาทีได้

Pipelining: หน่วยประมวลผลธุรกรรมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพของโหนดเดียวกระบวนการ

Pipelining เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการประมวลผลกระแสข้อมูลขาเข้า ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการประมวลผลเป็นขั้นตอนตามลำดับ CTO ของ Solana เปรียบเทียบกระบวนการ Pipelining กับวิธีการซักผ้าของเรา เสื้อผ้าต้องผ่านกระบวนการซัก ตาก และพับ และแต่ละขั้นตอนเหล่านี้จะต้องดำเนินการตามลำดับนี้ แต่แยกตามแต่ละยูนิต โมเดลนี้มักใช้ในการออกแบบ CU และช่วยให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมและจำลองไปยังโหนดทั้งหมดของเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว


Cloudbreak: Architecture ของระบบ Solana ที่รองรับการ Scale มหาศาล
Solana ใช้ไฟล์ที่แมปหน่วยความจำและการดำเนินการตามลำดับเพื่อช่วยในการขยายขนาดเครือข่าย Cloudbreak เป็นโครงสร้างข้อมูลที่อนุญาตให้เขียนตามลำดับและอ่านพร้อมกันระหว่าง 32 threads ที่ SSD รุ่นใหม่รองรับ

Archivers: ร้านบัญชีแยกประเภทของ Solana
Archiver ใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูล พวกเขาดาวน์โหลดข้อมูลจากผู้ตรวจสอบฉันทามติ เทคโนโลยี PoH อนุญาตให้ใช้การพิสูจน์ของ Proof-of-Replication (PoRep) สำหรับการตรวจสอบยืนยัน batch ท่ามกลางตัวจำลองหลายล้านแห่งทั่วโลก ผู้จัดเก็บจะบอกเครือข่ายว่ามีที่กี่ไบต์สำหรับการจัดเก็บ ตามพื้นที่เก็บข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดของ Archivers และจำนวนข้อมูลประจำตัวของตัวจำลอง เครือข่ายแบ่งบัญชีแยกประเภทออกเป็นส่วนที่เหมาะสมเพื่อให้ตรงกับอัตราการจำลองแบบและความทนทานต่อข้อผิดพลาด ผู้จัดเก็บจะได้รับรางวัลประมาณ 3% ของอัตราเงินเฟ้อสำหรับความพยายามในการจัดเก็บ

Solana ทำงานอย่างไร?

Solana เป็นบล็อกเชน Web-scale แห่งแรกของโลก บล็อกเชนที่ไม่ต้องมีการขอการอนุญาตของแพลตฟอร์มสามารถสร้างปริมาณงานได้ถึง 50,000 TPS เนื่องจากสถาปัตยกรรมที่ไม่ซ้ำแบบใคร

Solana ได้รับการออกแบบให้เป็นบล็อคเชนที่เร็วที่สุดในตลาด มันใช้คุณสมบัติหลักแปดประการ (PoH, Tower BFT, Gulf Stream, Turbine, Sealevel, Pipelining, Cloudbreak, Archivers) ที่ช่วยให้บรรลุความเร็วที่ไม่อาจจะมองเห็นในการทำธุรกรรม

Solana ใช้กลไกฉันทามติ PoS ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากฉันทามติของ Tower BFT

Tower BFT ช่วยให้เครือข่ายเข้าถึงฉันทามติโดยบังคับใช้แหล่งเวลาสากลที่เรียกว่า Proof-of-History สิ่งนี้สร้างการอ้างอิงถาวรสำหรับโหนดทั้งหมดของเครือข่าย อย่าสับสน Proof-of-History (PoH) ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ไม่ต้องมีการขอการอนุญาตของเครือข่ายกับกลไกฉันทามติ

Proof-of-History คือนาฬิกากระจายศูนย์ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยบล็อกเชนและเป็นหนึ่งใน 8 นวัตกรรมหลักของ Solana Tower BFT ใช้นาฬิกาที่ไม่ต้องมีการขอการอนุญาตเพื่อเร่งการทำธุรกรรม ระบบการทำธุรกรรมคู่ขนาน Sealevel ช่วยให้สัญญาอัจฉริยะทำงานพร้อมกันโดยใช้ GPU และ SSD ที่มีอยู่

คุณลักษณะ Gulf Stream คือระบบกลุ่มหน่วยความจำซึ่งมักเรียกว่า mempool ช่วยส่งต่อธุรกรรมไปยังผู้ตรวจสอบความถูกต้องก่อนการสรุปธุรกรรมก่อนหน้า ช่วยเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมสูงสุด

โดยสรุป กระบวนการของ Solana ทำงานดังนี้:

  1. รับอินพุตการแปลงในบัญชีแยกประเภท
  2. ลำดับบัญชีแยกประเภทและสั่งข้อความเพื่อให้สามารถประมวลผลโดยโหนดอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. บัญชีแยกประเภทเดียวกันทำธุรกรรมสถานะปัจจุบันและเก็บไว้ใน RAM
  4. บัญชีแยกประเภทเผยแพร่ธุรกรรมและลายเซ็นของสถานะสุดท้ายไปยังผู้ตรวจสอบ (นี่คือโหนดการจำลองแบบ)
  5. ผู้ตรวจสอบดำเนินการธุรกรรมเดียวกันกับสำเนาของสถานะและเผยแพร่ลายเซ็นของสถานะเมื่อได้รับการยืนยัน
  6. การยืนยันที่เผยแพร่จะเป็นการลงคะแนนสำหรับกลไกฉันทามติ

แอปพลิเคชั่นใดบ้างที่ทำงานบน Solana?

เมื่อคุณมีความเข้าใจที่ดีขึ้นแล้วว่า Solana คืออะไร คุณอาจสงสัยว่าแอปใดบ้างที่สามารถเรียกใช้บนเครือข่าย Solana ได้

Solana เป็นบล็อกเชนที่ตั้งโปรแกรมได้เนื่องจากมีความสามารถในการโต้ตอบกับสัญญาอัจฉริยะ เช่นเดียวกับ Ethereum สัญญาอัจฉริยะรองรับแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (DApps) ที่หลากหลาย เช่น ตลาด NFT เกม DeFi และ DEX

แอป Solana ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Decentralized Exchanges (การแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ หรือ DEX) และแอปให้ยืม เครือข่ายยังสามารถสนับสนุนสินทรัพย์ที่ห่อหุ้มและ stablecoins เช่น USD Coin คุณสามารถค้นหาระบบนิเวศของ Solana ทั้งหมดได้ที่นี่

ใครคือคู่แข่งของ Solana?

บล็อกเชนที่ไม่ต้องมีการขอการอนุญาตส่วนใหญ่มองว่า Solana เป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพ เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ทำงานได้สำหรับบล็อคเชนสัญญาอัจฉริยะรุ่นเก่า หลายคนเปรียบเทียบ Solana กับ Ethereum ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้บล็อกเชนแห่งแรก ข้อได้เปรียบหลักคือแพลตฟอร์มสามารถประมวลผลได้ถึง 50,000 TPS ในขณะที่อัตราของ Ethereum อยู่ระหว่าง 15 ถึง 45 TPS

เมื่อเปรียบเทียบในด้านขนาดและประวัติการพัฒนา คู่แข่งของ Solana ก็จะเป็น SKALE Labs, 1Token, ARK และ Cindx แต่การปรับปรุงและการออกแบบอย่างต่อเนื่องของโครงการทำให้โครงการนี้แตกต่างจากบล็อกเชนที่มีอยู่ทั้งหมด

ความสำเร็จครั้งสำคัญของ Solana กับพันธมิตรกว่า 250 ราย

Solana เปิดตัวเครือข่าย mainnet beta ในเดือนมีนาคม 2020 ตั้งแต่นั้นมา SOL ก็กลายเป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรกของสกุลเงินดิจิทัลตามมูลค่าราคาตลาด แม้ว่าเครือข่ายจะมีฟังก์ชันการทำงานที่สมบูรณ์ แต่นักพัฒนายังคงทำงานเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของเครือข่าย

Solana มีโครงการและพันธมิตรมากกว่า 250 รายแล้ว รวมถึง USDC, Chainlink, BSN และ Serum ทีมงานของ Solana มั่นใจว่าความสามารถในการปรับขนาดสำหรับ DApps จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป และมีเป้าหมายที่จะดึงพันธมิตรและเงินทุนเข้ามาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในจำนวนผู้ใช้กว่าพันล้านคน

Solana Labs วางแผนที่จะเร่งการสร้างแพลตฟอร์มเพิ่มเติม และวางแผนที่จะเปิดตัวฝ่ายการลงทุนและการซื้อขายสำหรับเครือข่าย คุณสามารถติดตามการพัฒนาทีมของ Solana ได้ที่ GitHub

Solana(SOL)

อนาคตของเหรียญ SOL เป็นอย่างไร?

การพัฒนาโครงการโดยรวมและโครงการที่เข้าร่วม Solana มีส่วนทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตลาดในเชิงบวก โทเค็นดั้งเดิมของ Solana (SOL) ใช้สำหรับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและการตรวจสอบ

โปรโตคอลจะผลาญค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่จ่ายเป็น SOL ซึ่งทำให้กลไกดังกล่าวเป็นกลไก deflationary และช่วยจูงใจให้ผู้ใช้ตรวจสอบ SOL โดยตรงจากกระเป๋าเงินดิจิตอลเข้ารหัสที่เข้ากันได้ สิ่งนี้นำไปสู่บล็อกเชนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

ณ เดือนกันยายน 2021 โทเค็นดั้งเดิม (SOL) ของ Solana ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับที่ 7 ตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด โดยมีโทเค็นหมุนเวียนทั้งหมด 296,831,588.35 โทเค็น

จากความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จมากมาย SOL ได้ขึ้นทะเบียนราคาเพิ่มขึ้น 66000% ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 214.96 ดอลลาร์ ซึ่งแตะระดับเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2021 นักลงทุนยังสามารถเพิ่มผลตอบแทนได้ด้วยการตรวจสอบ SOL

การกระจายโทเค็นของ Solana

ณ เดือนกันยายน 2021 SOL มีอุปทานหมุนเวียนอยู่ที่ 296.69 ล้านดอลลาร์

การกระจายโทเค็น SOL:

  • โทเค็น Seed Sale คิดเป็น 16.23% ของปริมาณโทเค็นทั้งหมด
  • โทเค็น Founding Sale คิดเป็น 12.92% ของปริมาณโทเค็นทั้งหมด
  • โทเค็น Validator Sale คิดเป็น 5.18% ของปริมาณโทเค็นทั้งหมด
  • โทเค็น Strategic Sale คิดเป็น 1.88% ของปริมาณโทเค็นทั้งหมด
  • โทเค็น CoinList Auction Sale คิดเป็น 1.64% ของปริมาณโทเค็นทั้งหมด
  • โทเค็น Team คิดเป็น 12.79% ของปริมาณโทเค็นทั้งหมด
  • โทเค็น Foundation คิดเป็น 10.46% ของปริมาณโทเค็นทั้งหมด
  • โทเค็น Community คิดเป็น 38.89% ของปริมาณโทเค็นทั้งหมด

Swiss Foundation ซึ่งมีคณะกรรมการอิสระ ได้ถือโทเค็น Community สิ่งเหล่านี้ใช้สำหรับการตลาดและทุน โทเค็น Foundation อยู่ใน Coinbase Custody และกระเป๋าเงินเย็น ส่วนของ Team อยู่ในบัญชีธนาคาร USD

เงินทุนที่ได้รับจากการขายโทเค็นจะถูกจัดสรรดังนี้:

  • พันธมิตร 3.00%
  • การตลาด 3.00%
  • ทีม 35.00%
  • การพัฒนา 35.00%
  • บริการและกฏหมายมืออาชีพ 12.00%
  • ภาษี 3.00%
  • เช่าออฟฟิศ 6.00%
  • อื่นๆ 3.00%

สรุปส่งท้าย

Solana นั้นมีโอกาสที่จะเป็น Blockchain ที่จะมา Disrupt วงการ Layer 1 เหมาะสำหรับการสร้าง DApp รุ่นต่อไปบน Solana นี้ แต่ Solana ก็ยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับความปลอดภัยทียังมี Node น้อยเกินไปสามารถ Hack ได้ง่ายกว่า ETH โดยยังคงต้องดูต่อไปว่าจะสามารถเทียบชั้นกับ ETH2.0 ในอนาคตได้หรือไม่

*บทความดังกล่าวไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน เป็นเพียงการให้ความรู้เท่านั้น โปรดศึกษาด้วยตัวเองและทางเราให้ความสำคัญกับความถูกต้องเป็นอย่างมาก