สูตรสำเร็จกับ indicator forex ที่แม่นยําที่สุด 2021

เคยสังเกตหรือไม่ว่านักเทรดมืออาชีพแต่ละคนมักมีความเชี่ยวชาญ indicator forex ที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเราเริ่มคิดจะลองนำ indicator forex ตัวเดียวกันนั้นมาใช้บ้าง ก็มักไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่คนเหล่านั้นทำได้ หรือหากทำได้ก็มักจะเป็นช่วงสั้น ๆ ที่ไม่สามารถรักษาผลกำไรให้คงที่ไปได้ตลอด จนทำให้นึกสงสัยขึ้นมาว่า แท้จริงแล้ว indicator forex นั้นใช้ได้จริง ๆ หรือไม่ ไปจนถึงคำถามที่ว่าจะมีสูตรสำเร็จของ indicator forex ที่แม่นยําที่สุดไหม? และในบรรดา indicator forex มากมายนั้นจะมี indicator forex ตัวไหนที่เหมาะกับเราบ้าง?  

หากนี่เป็นคำถามที่คุณยังสงสัยอยู่ละก็ตามมาได้เลย เพราะบทความนี้เราจะชวนไปสำรวจและตอบคำถามเหล่านี้กัน

การเลือก indicator forex ที่แม่นยําที่สุด

ก่อนจะไปถึงคำตอบขอบคำถามในข้างต้น เราคงต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ตัว indicator forex ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือ ตัวชี้วัดหนึ่ง ๆ ที่มักมีการคิดค้นขึ้นมาจากการนำ ราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และปริมาณซื้อขาย มาเข้าสูตรคำนวณจนได้เป็นค่า ๆ หนึ่ง และเราก็มักนำค่าที่ได้มานี้มาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง 

ซึ่งอินดิเคเตอร์ที่บอกค่าได้เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะใช้ได้กับตลาดในทุกรูปแบบ เช่น ถ้าตลาดกำลังมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งมาก การนำอินดิเคเตอร์บอกความผันผวนมาใช้ก็อาจทำให้ต้องซื้อขายเร็วและกลายเป็นตกรถได้, ในทางกลับกัน การนำอินดิเคเตอร์บอกแนวโน้มมาใช้กับตลาดที่ไม่มีเทรนก็อาจทำให้ต้องคัทลอส/ซื้อดอยเป็นประจำจนเกิดความเสียหายในการเทรดได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้น indicator forex ที่เป็นสูตรสำเร็จและเป็น indicator forex ที่แม่นยำที่สุดในทุกรูปแบบของตลาดนั้นจึงไม่มีจริง แต่ indicator forex ที่แม่นยำที่สุดในบางสถานการณ์นั้นพอจะมีความเป็นไปได้

3 indicator forex ที่แม่นยําที่สุดแนะนำ

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า indicator forex แต่ละตัวมีเป้าหมายหรือจุดประสงค์ที่ต้องการบอกแตกต่ากันไป และคราวนี้เราจะนำ indicator forex แม่นยำที่สุดมาพูดคุย 3 ตัวด้วยกัน ได้แก่

1.MA – Moving Average 

MA คือ Lagging Indicator แนว Trend Following ที่ได้มาจากการนำราคาย้อนหลังมาหาค่าเฉลี่ยและพล็อตออกมาเป็นเส้น ซึ่งเส้นนี้จะช่วยตัดราคาที่เหวี่ยงมาก-น้อยเกินจริงออกไปให้เราได้เห็นการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ที่สมูทขึ้น.

SMA และ EMA แตกต่างกันอย่างไร

– Simple Moving Average (SMA)

Simple Moving Average (SMA) เป็นการนำราคาย้อนหลังตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้มาบวกกันและหารเฉลี่ยด้วยจำนวนข้อมูลที่นำมาคำนวณแบบะตรง ๆ เลย 

สูตร Simple Moving Average (SMA) = (P1 + P2 + P3 + P4 + … + Pn) / n

– Exponential moving averages (EMA)

Exponential moving averages (EMA) เป็นการเฉลี่ยค่าอีกรูปแบบหนึ่ง แต่จะเพิ่มด้วยการถ่วงน้ำหนักเข้าไปเพื่อให้ค่าที่อยู่ไกล ๆ มีผลต่อผลลัพธ์น้อยลง ขณะที่ค่าที่เพิ่งผ่านมาไม่นานจะมีการให้ค่ามากกว่า 

สูตร Exponential Moving Average (EMA) = [ราคาปิด – EMA ก่อนหน้า] * (2 / n+1) + EMA ก่อนหน้า

จริงอยู่ที่ MA ขึ้นชื่อว่าเป็น Lagging Indicator หรืออินดิเคเตอร์ชี้ตาม แต่เมื่อนำ MA หลายเส้นมาวิเคราะห์ร่วมกัน เราก็สามารถเปลี่ยน indicator forex ตัวนี้ให้เป็น Leading Indicator หรือ อินดิเคเตอร์ชี้นำที่มีความแม่นยำได้ เช่น การนำ MA 5, 10,  25, 75, และ 200 มาใช้บอกสัญญาณซื้อขายที่แม่นยำ บนความเชื่อที่ว่า

เมื่อราคาสินทรัพย์ไม่มีแนวโน้ม เส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 5 เส้นจะเกาะตัวกันอย่างไม่เป็นระเบียบ indicator forex ตัวนี้จะไม่สามารถบ่งบอกสัญญาณที่แม่นยำได้ แต่สัญญาณการซื้อขายที่แม่นยำจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อตลาดเริ่มเปลี่ยนกลับเป็นมีแนวโน้ม และเริ่มมีค่า MA ในระยะสั้นเริ่มเรียงตัวเป็นระเบียบขึ้นมาจนเป็น

Chart, line chart

Description automatically generated
แหล่งที่มาจาก: Mitrade

– Golden Cross

คือจุดที่ MA ระยะสั้นเริ่มปรับตัวตัดขึ้นเหนือ MA ของช่วงเวลาที่ยาวกว่า และเริ่มเรียงเป็นระเบียบในลักษณะที่ MA เรียงจากน้อยไปมากได้ชัดเจน คือ MA 5, 10,  25, 75, และ 200 เรียงจากบนลงล่าง นั่นแสดงว่าราคาเริ่มมีแนวโน้มปรับเป็นขาขึ้นแล้ว 

– Death Cross

คือจุดที่ MA ระยะสั้นเริ่มปรับตัวตัดลงจาก MA ของช่วงเวลาที่ยาวกว่า และเริ่มเรียงเป็นระเบียบในลักษณะที่ MA เรียงจากมากไปน้อย คือ MA 200, 75, 25, 10 และ 5 เรียงจากบนลงล่าง นั่นแสดงว่าราคาเริ่มมีแนวโน้มปรับเป็นขาลงอย่างเต็มตัว 

และจากที่กล่าวมาแล้ว MA เป็น indicator forex ที่เหมาะสำหรับใช้ในการบอกแนวโน้ม จึงมีประโยชน์และแม่นยำมากในช่วงที่ตลาดกำลังเปลี่ยนเป็นมีแนวโน้ม หลังจากนั้นก็ยังสามารถใช้ MA เป็นเส้นแนวรับแนวต้านสำหรับการเทรดได้ตราบใดที่แนวโน้มยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ไม่เหมาะสำหรับการใช้ซื้อขายในช่วงตลาดไม่มีเทรนที่มักจะให้สัญญาณผิดพลาดได้

2. RSI – Relative Strength Index

RSI เป็น inditcator forex ชนิด Leading Indicator ที่ให้สัญญาณชี้นำ และเป็น Momentum Oscillator ที่พล็อตค่าในช่วงระหว่าง 0 – 100 เพื่อใช้บอก Momentum หรือความแข็งแกร่งของเทรนได้เป็นอย่างดี

สูตร RSI = 100 – (100/(1+RS))

เมื่อ RS = ค่าเฉลี่ยย้อนหลังของวันที่ราคาปรับขึ้น/ ค่าเฉลี่ยย้อนหลังของวันที่ราคาปรับลง

เรามักใช้ RSI(14) นั่นหมายถึงการนำค่าจากแท่งเทียน 14 แท่งย้อนหลังมาคำนวณในสมการนี้ ซึ่งหากโดยปกติที่การเคลื่อนไหวของราคาแบบกลาง ๆ มีแท่งเขียวกับแท่งแดงสลับกันอย่างละครึ่ง ๆ ค่า RSI ที่คำนวณได้จะออกมาราว 50 ซึ่งหมายถึงตลาดไม่บวกไม่ลบ ในกรณีนี้เราสามารถใช้ RSI ดูโมเมนตัมได้จาก

  • ถ้า RSI อยู่เหนือ 50 และยังชันขึ้นเรื่อย ๆ หมายถึงราคาสินทรัพย์ยังคงปรับขึ้นด้วยอัตราเร่งด้วยโมเมนตัมแกร่ง
  • ถ้า RSI อยู่เหนือ 50 แต่เริ่มหักหัวลง หมายถึงราคาเริ่มปรับขึ้นด้วยอัตราช้าลง โมเมนตัมเชิงบวกลดลง
  • ถ้า RSI ต่ำกว่า 50 และยังหักหัวลงต่อ หมายถึงราคายังลดลงด้วยโมเมนตัมเชิงลบที่มากขึ้น
  • ถ้า RSI ต่ำกว่า 50 แต่เริ่มหักหัวขึ้น นั่นแปลว่าราคาลดลงก็จริง แต่โมเมนตัมเชิงลบเริ่มอ่อนแรงลง

แต่ที่ระดับ RSI 50 ก็ยังไม่ใช่จุดที่นักเทรดนิยมใช้ เรามักใช้ RSI เป็น indicator forex ที่แม่นยําที่สุดเมื่อใช้บอกค่า Overbought และ Oversold

สมมติแบบสุดโต่งเพื่อให้เห็นภาพ 

Chart

Description automatically generated
แหล่งที่มาจาก: Mitrade

– Oversold สัญญาณซื้อ

ถ้าคำนวณ RSI นับย้อนหลังไป 14 แท่งแล้วแท่งที่นำมาคำนวณเป็นแท่งแดงทั้งหมด RSI ที่คำนวณได้ก็จะอยู่ที่ 0 แน่ ๆ เพราะ RS ที่คำนวณออกมาจะ = 0 ซึ่งเป็นภาวะ Oversold แบบ Extream ที่เกิดขึ้นได้ยาก เมื่อราคามีการเบี่ยงเบนไปมากก็มีโอกาสที่จะรีบาวน์ ดังนั้นเขต Oversold ที่อยู่ต่ำกว่า 30 ลงไปจึงมักเป็นเขตซื้อที่นักเทรดนิยมใช้

– Overbought สัญญาณขาย

ขณะที่หากนับย้อนหลังไปแล้วเป็นแท่งเขียวทั้งหมด RSI ที่คำนวณได้ก็จะอยู่ที่ 100 เพราะ RS ที่คำนวณได้จะ = 1 ซึ่งแสดงถึงภาวะ Overbought หรือ เป็นภาวะ Extream ของการไล่ซื้อแบบสุด ๆ  ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะตกกลับลงมาได้สูง เขต Overbought ที่ระดับ 70 ขึ้นไปจึงมักเป็นสัญญาณขายที่แม่นยำสำหรับนักเทรดได้ในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้การบอกโมเมนตัมของ  RSI ยังคงมีจุดอ่อนในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น เป็นกระทิงแบบรุนแรง หรือ มีการขายเมื่อเกิดภาวะวิกฤตที่ทำให้อาจเกิดภาวะ Overbought/ Oversold ซ้ำ ๆ โดยที่ราคายังไม่ดีดกลับก็ได้ การใช้เครื่องมือ RSI ใช้ร่วมกับ indicator forex จะให้ประสิทธิภาพได้ดีขึ้นมากกว่าการใช้แบบเดี่ยว ๆ

3. MACD – Moving Average Convergence Divergence

MACD เป็น inditcator forex ที่พัฒนาขึ้นจาก MA หรือ เส้น Moving Average แต่มีการพัฒนาให้ก้าวไปอีกขั้น โดยขณะที่ MA ใช้บอกได้เพียงแนวโน้มของราคา แต่ MACD ถูกพัฒนาให้สามารถบอกทั้งแนวโน้ม (Trend) และโมเมนตัม (Momentum) ของราคาได้ด้วย ความซับซ้อนของ MACD คือจะมาด้วยส่วนประกอบ 3 อย่างคือ

1) MACD

เส้นนี้พล็อตขึ้นมาจากส่วนต่างของเส้นค่าเฉลี่ยแบบเอกโปเนนเชียล (EMA) สองเส้น เพื่อดูว่า EMA ทั้งสองเส้นกำลังบอกแนวโน้มแบบไหนอยู่ ซึ่ง MACD ที่ใช้อยู่จะเซ็ตเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองเป็น EMA12 และ EMA16 แบบอัตโนมัติ ซึ่งเราจะคำนวณสูตรได้จาก

MACD = EMA(12) – EMA(26)

วิธีการอ่านค่า

– หาก MACD อยู่เหนือ 0 นั่นแสดงว่า EMA ในระยะสั้น (EMA12) อยู่ด้านบนหรือมีค่ามากกว่า EMA ระยะยาว (EMA26) ทำให้ตีความได้ว่าราคากำลังอยู่ใน แนวโน้มขาขึ้น และหากยิ่งบวกมากขึ้น (เส้นชันมาก) แสดงว่าโมเมนตัมการขึ้นแข็งแกร่ง แต่หาก MACD อยู่เหนือ 0 แต่บวกลดลง (เส้นเริ่มหักลง) แสดงว่าโมเมนตัมของการขึ้นเริ่มอ่อนแรง

– หาก MACD อยู่ต่ำกว่า 0 นั่นแสดงว่า EMA ในระยะสั้น (EMA12) อยู่ด้านล่างหรือมีค่าน้อยกว่า EMA ระยะยาว (EMA26) ทำให้ตีความได้ว่าราคากำลังอยู่ใน แนวโน้มขาลง และหากค่ายิ่งลบมากขึ้น (เส้นชันลงมาก) แสดงว่าโมเมนตัมการลงแข็งแกร่ง แต่หาก MACD อยู่ใต้ 0 แต่ลบลดลง (เส้นเริ่มหักหัวขึ้น) แสดงว่าโมเมนตัมของการลงเริ่มอ่อนแรง

– หาก MACD เท่ากับ 0 นั่นแสดงว่า EMA ทั้งสองเส้นมีค่าเท่ากันหรือกำลังตัดกัน ทำให้ไม่สามารถบอกแนวโน้มได้

2) Signal Line

เส้นนี้เป็นการเฉลี่ยค่าของ MACD ให้อยู่ในรูป EMA9 เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ทิศทางและแนวโน้มของเส้น MACD ต่อในอนาคต

สูตร Signal Line = EMA(9) ของ MACD

สามารถวิเคราะห์ได้โดยดูเทียบ Signal Line กับ MACD หาก MACD อยู่เหนือ Signal Line หรือค่าเฉลี่ยของตัวมันเอง ก็มีแนวโน้มว่า MACD ยังอยู่ในแนวโน้มขึ้นอยู่ ในทางกลับกันหาก Signal Lind เริ่มตัดลงมาก็มีแนวโน้มว่า MACD กำลังเริ่มจะปรับตัวลง

3) MACD Histogram

เราจะเห็น indicator ตัวนี้มีลักษณะเป็นแท่ง ๆ ซึ่งเป็นการนำส่วนต่างของ MACD และ Signal Line มาพล็อตอีกที แต่อินดิเคเตอร์ตัวนี้จะไม่ได้นำมาบอกทิศทาง การที่ MACD Histogram มีค่า = 0 นั่นแสดงว่า MACD และ Signal Line กำลังจะตัดกัน และมักเป็นจุดเปลี่ยนแนวโน้มของราคาจากขาขึ้นเป็นขาลง หรือขาลงเป็นขาขึ้นนั่นเอง

Chart, line chart

Description automatically generated
แหล่งที่มาจาก: Mitrade

ประยุกต์ใช้ indicator forex กับแพลตฟอร์มการเทรดของ MiTrade

MiTrade เป็นโบรกเกอร์ forex ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากหมู่นักลงทุนไทย นอกจากที่เป็นโบรกเกอร์ forex ที่มีความน่าเชื่อถือสูงแล้ว MiTrade ยังมีลักษณะเฉพาะอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของเทรดเดอร์เกือบทุกด้าน

ในด้าน indicator forex แพลตฟอร์มการเทรดของ MiTrade ได้เสนอกราฟแบบเรียบไทม์ด้วย indicator forex หลากหลายมากกว่า 100 กว่าชนิดให้เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์ในการเทรดเพื่อให้ตัดสินใจด้วยความแม่นยำและทันต่อสถานการณ์

indicator forex ยอดฮิตที่ MiTrade เสนอให้มีเช่น Simple Moving Averages (SMA), Exponential Moving Averages (EMA), Moving Average Convergence Divergence (MACD), Relative Strength Index (RSI), Commodity Channel Index (CCI), Average True Range (ATR), Weighted Moving Average, Bollinger Bands, Zig Zag ฯลฯ เป็นต้น

หากเพื่อนๆ พร้อมเทรดแล้วก็สามารถเปิดบัญชีจริงของ MiTrade ได้เลย แต่หากต้องการทำการฝึกฝนสามารถเปิดบัญชีเทรดทดลองก่อนได้ โดย MiTrade ได้จัดเงินเสมือนจริง 50,000 ดอลล่าร์ในบัญชีไว้ให้เพื่อให้เทรดเดอร์หน้าใหม่สามารถทำการฝึกฝนการทักษะก่อนการเทรดจริงแบบไม่มีความเสี่ยงใดๆ

และคราวนี้เราก็ได้มาเรียนรู้สูตรสำเร็จกับ indicator forex ที่แม่นยําที่สุด 2021กันไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการอ่านหรือเรียนรู้นั้นอาจทำให้จดจำได้ในระยั้น แต่ความเข้าใจจริง ๆ และความเชี่ยวชาญมักจะเกิดขึ้นจากการหมั่นสังเกตและนำไปใช้จริง ยังไงก็ลองนำไปใช้แล้วหมั่นสังเกตกันดูเพื่อที่ในภายหลังอาจปรับสูตรให้เหมาะกับระบบของตัวเองได้อย่างเฉพาะตัวที่สุด