ปัจจุบันมีโบรกเกอร์ CFD ให้นักเทรดไทยเลือกได้มากมาย ทำให้การเข้าสู่ตลาดซื้อขาย CFD เป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก ปัญหาใหญ่ของนักเทรดจึงกลายเป็นการเลือกโบรกเกอร์แทน ซึ่งหลายท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อ Plus500 กันมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่รู้จักโบรกเกอร์นี้และยังไม่รู้ว่าจะไว้ใช้ให้ดูแลเงินทุนของท่านได้หรือเปล่า คราวนี้เราจึงจะมาแนะนำโบรกเกอร์นี้ให้ทุกคนได้รู้จักกัน
ทำความรู้จักกับ Plus500
Plus500 ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองไฮฟา ประเทศอิสราเอล ปัจจุบันมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย, อังกฤษ และไซปรัส ถูกรับเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange) ให้บริการเป็นโบรกเกอร์ CFD ที่ซื้อขายสินค้าทางการเงินหลากหลายประเภทในหลายประเทศทั่วโลก
การกำกับดูแล
Plus500 เป็นโบรกเกอร์ CFD ที่เป็นที่รู้จักของลูกค้าทั่วโลก อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 7 แห่ง ได้แก่
- Plus500UK Ltd ได้รับอนุญาตและการกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน FCA ของอังกฤษ ใบอนุญาตเลขที่ FRN 509909
- Plus500CY Ltd ได้รับอนุญาตและการกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน CySEC สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไซปรัส ใบอนุญาตเลขที่ 250/14
- Plus500AU Pty Ltd ได้รับอนุญาตและการกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน ASIC จากออสเตรเลีย ใบอนุญาต AFSL #417727 และได้รับอนุญาตจาก FMA ของนิวซีแลนด์ ด้วยใบอนุญาตเลขที่ FSP No. 486026 รวมถึงได้ใบอนุญาต FSP #47546 จาก FSCA ในแอฟริกาใต้
- Plus500SG Pte Ltd (UEN 201422211Z) ถือใบอนุญาตการให้บริการตลาดทุนจาก MAS (Monetary Authority of Singapore) ของสิงคโปร์ ได้รับการอนุญาตให้บริการซื้อขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน ใบอนุญาตเลขที่ CMS100648-1
และด้วยการรับรองจากหน่วยงานมากมายนี้ทำให้ Plus500 สามารถให้บริการซื้อขายสินค้าทางการเงินในหลากหลายประเทศทั่วโลก ภายใต้การกำกับดูแลและต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบมาตรฐานของอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด
ความปลอดภัยของเงินทุน
เมื่อลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายกับ Plus500 บริษัทจะเป็นผู้ถือเงินทุนแทนลูกค้าและต้องปฏิบัติตามระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแล ภายใต้กฎระเบียบนี้ Plus500 จำเป็นต้องเก็บรักษาเงินทุนของลูกค้าไว้ในบัญชีต่างหากแยกจากบัญชีใช้จ่ายและเงินทุนของบริษัทเพื่อป้องกันการใช้เงินผิดประเภท และมีการตรวจสอบตามมาตรฐานบัญชีอยู่เสมอ
Plus500 จะใช้เงินทุนของบริษัทในการประกันความเสี่ยงของเงินทุน โดยไม่แตะต้องเงินทุนของลูกค้า และจะไม่โอนเงินที่ลูกค้าฝากไว้ไปให้กับกลุ่มบุคคลที่สาม (third-party) ทั้งยังไม่มีบทบาทการเปิดสถานะเพื่อเก็งกำไรในตลาดการเงิน และจะลงทุนภายใต้การได้รับคำมอบหมายจากลูกค้าเท่านั้น
นอกจากนี้ Plus500 ยังมีการป้องกันยอดคงเหลือติดลบเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะไม่เสียเงินมากกว่าจำนวนที่มีอยู่ในบัญชีของตนเองอีกด้วย
โหมดการทำงานของแพลตฟอร์ม
Plus500 ให้บริการด้วยโหมดการทำงานของแพลตฟอร์มแบบ Market Maker (MM) โดยโบรกเกอร์จะเป็นผู้รับคำสั่งเปิดปิดสถานะจากลูกค้าเพื่อยืนยันการจับคู่กับสภาพคล่องที่โบรกเกอร์สร้างขึ้นเองโดยไม่ได้ส่งต่อไปยังตลาดสกุลเงินระหว่างประเทศ หรือตลาดซื้อขายอนุพันธ์อื่น ๆ ทำให้การส่งสถานะของลูกค้าจับคู่ยืนยันออเดอร์ได้ง่าย ไม่ต้องกังวลกับสภาพคล่องที่น้อยในบางช่วงของตลาด โดยแลกกับค่าเสปรดราคาเล็กน้อย แต่มีการซื้อขายที่รวดเร็วและแม่นยำกว่ามาก
ผลิตภัณฑ์สำหรับการเทรด
Plus 500 ให้บริการซื้อขาย CFDs บนสินค้าหลากหลายชนิด ทั้งหุ้นรายตัว สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงินดิจิทัล ETFs ออปชั่นส์ และดัชนี รวมแล้วกว่า 2,000+ รายการ โดยแบ่งเป็น
- การเทรด CFDs บนหุ้น 1,800 ตัว
- การเทรด CFDs บนดัชนีหุ้น 33 แห่ง
- การเทรด CFDs บน ETF 92 ตัว
- การเทรด CFDs บนสินค้าโภคภัณฑ์ 22 ชนิด
- การเทรด CFDs บนสกุลเงินดิจิทัล 14 สกุล
- การเทรดสกุลเงิน 70 คู่เงิน
ฯลฯ
ประเภทบัญชี
Plus500 มีบริการทางบัญชีที่ลูกค้าใหม่เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ดังที่เราจะแจกแจงต่อไปนี้
ลูกค้าที่เปิดบัญชีกับ Plus500 สามารถเลือกประเภทบัญชีได้ 2 รูปแบบ คือ บัญชีลูกค้ารายย่อย (Retail Account) หรือ บัญชีนักเทรดมืออาชีพ (Professional Account)
บัญชีทั้งสองแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วจะมีรายละเอียดการให้บริการไม่ต่างกัน แต่สำหรับบัญชีของลูกค้ารายย่อยนั้นจะมีข้อกำหนดการให้เลเวอเรจต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับบัญชีนักเทรดมืออาชีพ ซึ่งเลเวอเรจที่บัญชีนักลงทุนรายย่อยใช้จะจำกัดอยู่ที่ 1:30 ขณะที่บัญชีนักเทรดมืออาชีพจะสามารถเพลิดเพลินกับการใช้เลเวอเรจได้สูงถึง 1:300 ได้เลย
เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสิทธิในการเปิดบัญชีนักเทรดมืออาชีพ ลูกค้าจำเป็นต้องรักษาระดับสินทรัพย์ในพอร์ตให้อยู่ในระดับที่กำหนด และจำเป็นต้องตอบแบบสอบถามเพื่อประเมินความเสี่ยงที่ลูกค้าจะรับได้เพื่อให้สามารถเข้าถึงการใช้เลเวอเรจในระดับที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ หากลูกค้ายังคงลังเลและไม่แน่ใจกับการใช้งาน Plus500 ยังมีบัญชีทดลอง (Demo Account) ไว้ให้บริการเพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ฟังก์ชั่นการเทรดและเข้าถึงบริการของ Plus500 ได้ไม่แตกต่างจากลูกค้าที่เปิดบัญชีแล้ว โดยที่บัญชีทดลองนี้จะไม่มีวันหมดอายุและสามารถใช้ได้ยาวนานตราบที่ลูกค้าพอใจ
ทั้งนี้ Plus500 เป็นโบรกเกอร์หนึ่งที่มีการเปิดบัญชีได้รวดเร็ว และไม่ยุ่งยาก
เลเวอเรจ
สำหรับเลเวอเรจที่ Plus500 กำหนดไว้จะมีความแตกต่างได้หลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าที่ทำการเทรดและประเทศที่ลูกค้าพำนักอยู่ซึ่งจะมีผลต่อกฎหมายที่บังคับใช้
ส่วนใหญ่แล้วเลเวอเรจสูงสุดสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีลูกค้ารายย่อยจะเป็น
- 20:1 สำหรับการเทรดบนดัชนีหุ้น
- 5:1 สำหรับการเทรดหุ้น
- 30:1 สำหรับการเทรดสกุลเงิน
ซึ่งการเทรดด้วยเลเวอเรจ 30:1 หมายความว่าคุณสามารถยืมเงินจากโบรกเกอร์ได้ $30 ด้วยการวางเงินประกันเพียง $1 หรือเรียกได้ว่าสามารถขยายความสามารถการซื้อขายได้ด้วยอัตรา 30 เท่าของเงินวางตั้งต้นนั่นเอง
ด้านหนึ่งเลเวอเรจก็มีข้อจำกัดตรงที่มีการกำหนดค่าไว้แบบคงที่ และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่านักเทรดจะต้องการให้ความเสี่ยงของสถานะมากขึ้นหรือน้อยลงก็ตาม
ค่าคอมมิชชั่น
หลังจากกล่าวถึงบริการที่ Plus500 เสนอให้กับลูกค้าไปแล้ว คราวนี้เราลองมาดูกันว่าต้นทุนที่เราต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์เพื่อให้ได้บริการเหล่านี้มานั้นคิดค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายอย่างไร
★ ค่าสเปรด Plus500 เป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการแบบ Market Maker มีการคิดสเปรดเป็นค่าดำเนินงานและมีการคิดสเปรดแบบลอยตัว โดยค่าสเปรดของสินค้าแต่ละตัวจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพคล่องในการซื้อขายเป็นหลัก
★ ค่าคอมมิชชั่นการซื้อขาย Plus500 ไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่นการซื้อขายเพิ่มเติมในการให้บริการ
★ ค่าคอมมิชชั่นการถือคำสั่งข้ามคืน จะมีการคิดก็ต่อเมื่อลูกค้าถือสถานะข้ามผ่านเวลาช่วงตัดวัน จะมีการคิดค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเป็นสัดส่วนที่แตกต่างกันไป โดยจะคิดเป็นรายวัน
★ ค่าธรรมเนียมการแปลงค่าเงิน Plus500 จะมีการคิดค่าธรรมเนียมการแปลงค่าเงินทุกครั้งเมื่อลูกค้ามีทำรายการซื้อขายสินค้าที่มีสกุลเงินต่างกับที่บัญชีของลูกค้าใช้อยู่ โดยจะคิดสูงสุด 0.7% จากผลกำไรหรือขาดทุนจากสถานะที่เปิดนั้นและจะมีการคำนวณแบบเรียลไทม์
★ ค่าธรรมเนียมปิดคำสั่งอัตโนมัติ (Guaranteed Stop Order) หากลูกค้ามีการใช้ฟังก์ชั่นการปิดคำสั่งอัตโนมัติ Plus500 จะมีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอ้างอิงจากความกว้างของสเปรดที่เกิดขึ้น และไม่ได้เปิดให้ลูกค้าได้ใช้ฟังก์ชั่นนี้ฟรี
★ ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน Plus500 จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน $10 USD ต่อเดือนหากลูกค้าไม่ได้มีการล็อกอินเข้ามาใช้งานเกินกว่า 3 เดือนติดต่อกัน และจะยุติเมื่อลูกค้ากลับเข้ามาล็อกอินเข้าใช้งานบัญชีอีกครั้ง
★ ค่าคอมมิชชั่นการถอนเงิน Plus500 ให้บริการฝากถอนเงินโดยไม่คิดค่าคอมมิชชั่น ภายใต้เงื่อนไขการถอนเงินไม่เกิน 5 ครั้งต่อเดือน ซึ่งหากลูกค้าใช้บริการเกินกว่าจำนวนที่กำหนดจะมีการคิดค่าคอมมิชชั่นสำหรับการถอนเงินเพิ่มเติมครั้งละ $10 หรือหากเป็นการถอนเงินผ่านธนาคารจะคิดค่าคอมมิชชั่น $6 ต่อครั้งเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การฝากถอนเงิน
เช่นเดียวกับโบรกเกอร์อื่น ๆ Plus500 ก็มีเงื่อนไขการฝากและถอนเงินที่กำหนดขึ้นมาโดยแบ่งเป็น
- การฝากเงิน Plus500 เรียกเงินฝากขั้นต่ำ $100 โดยสามารถชำระผ่านช่องทาง การโอนผ่านธนาคาร, ตัดบัตรเครดิต/เดบิต, PayPal, Skrill โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- การถอนเงิน Plus500 กำหนดให้มีการถอนเงินขั้นต่ำที่ $50 สำหรับการถอนเงินผ่าน Skrill/ Paypal และมีขั้นต่ำที่ $100 สำหรับการถอนเงินผ่านธนาคารและบัตรเครดิต ซึ่งหากมีการถอนเงินน้อยกว่าขั้นต่ำที่กำหนดไว้จะมีการคิดค่าคอมมิชชั่นเพิ่ม $10 โดยหักจากเงินที่ถูกเรียกถอนออกไป
สำหรับเวลาการฝากเงินนั้นจะมีเงินเข้าบัญชีทันที ขณะที่การถอนเงินจะใช้เวลา 3-7 วันขึ้นอยู่กับช่องทางที่ลูกค้าเลือก ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่นานกว่าโบรกเกอร์เฉลี่ยทั่วไปที่มักสามารถถอนเงินได้ภายใน 1-2 วันเท่านั้น
เครื่องมือสนับสนุนการเทรด
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าจับตามองสำหรับ Plus500 คือเครื่องมือสนับสนุนการเทรด ซึ่งมีทั้งแพลตฟอร์มการเทรดที่พัฒนาขึ้นเอง และเครื่องมือสนับสนุนอื่น ๆ
แพลตฟอร์มการเทรด
Plus500 ไม่ได้ให้บริการด้วยแพลตฟอร์ม MT4 หรือ MT5 เหมือนโบรกเกอร์อื่น แต่เสนอแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าด้วยแพลตฟอร์ม Web Trader และ Plus500 แอปพลิเคชั่น

★ Web Trader เป็นแพลตฟอร์มที่ Plus500 พัฒนาขึ้นมาด้วยหน้าจออินเตอร์เฟซที่ดูง่าย เข้าใจได้ไม่ยาก ทำให้นักเทรดสามารถส่งคำสั่งได้ง่าย ๆ ในเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดหน้าใหม่ที่ต้องการลดความยุ่งยากซับซ้อน ทำให้แพลตฟอร์มนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเทรด และมีให้บริการแล้วกว่า 30 ภาษาทั่วโลก
ข้อจำกัดเดียวที่น่าจะพบได้ก็คือแพลตฟอร์มนี้ไม่สามารถปรับแต่งหน้าจอเองได้ จึงอาจไม่ได้ตอบสนองความต้องการของนักเทรดที่มีรูปแบบเป็นของตัวเองนัก
★ แอปพลิเคชั่น มีให้ดาวโหลดใช้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สนับสนุนทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ซึ่งหน้าจอและรูปแบบของแอปพลิเคชั่นจะคล้ายคลึงกับการใช้งาน web trader เพียงแต่การใช้แอปพลิเคชั่นนั้นช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักเทรด ช่วยสร้างโซลูชันการซื้อขายที่พกพาสะดวก ช่วยให้สามารถเทรดได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างง่ายดาย

เครื่องมือและการเรียนรู้การเทรด
Plus500 ให้การสนับสนุนด้านเครื่องมือและข้อมูลสำหรับการเทรดอีกมากมาย เช่น ปฏิทินเศรษฐกิจ เครื่องมือช่วยควบคุมความเสี่ยง บริการแจ้งเตือน และคู่มือนักเทรด แต่สำหรับเครื่องมือวิเคราะห์ที่เสนอให้ใช้บนแพลตฟอร์มนี้ค่อนข้างมีข้อจำกัด

จอแสดงกราฟราคานั้นค่อนข้างเป็นมิตรกับนักเทรดมือใหม่เนื่องจากออกแบบมาให้ใช้งานง่ายไม่ต้องปรับแต่ง ตัวกราฟประกอบด้วยอินดิเคเตอร์ 107 ตัวที่นำมาใช้ได้ ซึ่งเสนอให้ผู้ใช้สามารถดูกราฟราคาแบบเรียลไทม์ได้ทั้งบนเว็บเทรดและบนแอปพลิเคชั่น แต่ด้วยความจำกัดของเนื้อที่หน้าจอทำให้จอกราฟบนแอปพลิเคชั่นไม่ได้ดูง่ายดูดีเหมือนการใช้งานบนเว็บเทรดที่มีเนื้อที่หน้าจอมากกว่า
กราฟราคาจะถูกเซฟหลังจากนักเทรดปรับแต่งอินดิเคเตอร์แล้ว ซึ่งเมื่อคำนึงถึงการที่นักเทรดรายวันจำเป็นต้องดูกราฟราคาสินค้าหลาย ๆ ตัวพร้อมกันนั่นก็เป็นเรื่องดี นอกจากนี้บนหน้าจอยังมีฟีดข่าวสารและปฏิทินทางเศรษฐกิจ ปฏิทินแจ้งกำหนดการของบริษัทต่าง ๆ แต่แพลตฟอร์มนี้กลับไม่มีข่าวจากสำนักข่าวใหญ่ ๆ อย่าง CNN Money หรือ Reuters ฟีดขึ้นมาบนหน้าจอ ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดหนึ่งของนักเทรด

ทั้งนี้ Plus500 ก็ยังให้เครื่องมือบอกสัญญาณ ‘อารมณ์ตลาด’ ฝังอยู่บนหน้าจอ เช่น ในการเทรดหุ้นมี แรงขาย 41% vs. แรงซื้อ 59% เพื่อให้นักเทรดสามารถประเมินสถานการณ์ได้
แต่ทั้งนี้บนหน้าจอของแพลตฟอร์มจะไม่มีการแสดงข้อมูลพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัวให้กับผู้ใช้ ทำให้นักเทรดจำเป็นต้องไปค้นหาข้อมูลจากแหล่งอื่น ซึ่งถือเป็นความยุ่งยากอย่างหนึ่งเวลาที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลสำหรับการเทรด

สำหรับการเรียนรู้บนแพลตฟอร์มของ Plus500 นั้นยังสามารถทำได้ดีกว่านี้ได้ ซึ่งบนเว็บไซต์ของ Plus500 จะมีส่วนที่เรียกว่า “Trader’s Guide” ที่ประกอบด้วยวิดีโอขนาดสั้น 6 คลิปที่สอนวิธีการใช้แพลตฟอร์ม แต่ไม่ได้เป็นเครื่องมือที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเทรดและสร้างผลกำไรให้กับนักเทรด ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นส่วนที่มีการสอนใช้เครื่องมือเทรด แต่ไม่ได้มีส่วนช่วยพัฒนาสกิลการเทรดของนักเทรดแต่อย่างใด
ฝ่ายบริการลูกค้า
Plus500 มีฝ่ายบริการลูกค้าคอยสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน โดยลูกค้าสามารถติดต่อโบรกเกอร์ได้ผ่านอีเมล โดยไม่มีช่องทางติดต่อผ่านโทรศัพท์และแชทออนไลน์
โบรเกอร์นี้ให้บริการลูกค้าในภาษาต่าง ๆ กว่า 31 ภาษาทั่วโลก แต่น่าเสียดายที่บริการสนับสนุนนี้ของ Plus500 ไม่ได้สนับสนุนภาษาไทย ทำให้นักเทรดไทยอาจได้รับข้อจำกัดในการติดต่อโบรกเกอร์อยู่บ้าง
โปรโมชั่น
เพื่อให้นักเทรดที่กำลังลังเลที่จะเปิดบัญชีกับ Plus500 ได้ตัดสินใจง่ายขึ้น โบรกเกอร์แห่งนี้ยังเสนอโปรโมชั่นดึงดูดใจลูกค้าสำหรับผู้เปิดบัญชีใหม่ ซึ่งมีทั้งโปรโมชั่น First Deposit Bonus ที่ต้องลงทะเบียนเพิ่มเติม และโปรโมชั่นโปรแกรมคืนเงินที่จะมีการคำนวณเงินคืนให้ลูกค้าแบบอัตโนมัติ
★ โปรโมชั่น First Deposit Bonus สำหรับผู้เปิดบัญชีใหม่เพียงกรอกโค้ดโปรโมชั่นจาก Plus500 และฝากเงินเข้าบัญชีตามจำนวนเงินฝากขั้นต่ำที่กำหนด หลังจากนั้นลูกค้าสามารถเริ่มเทรดเพื่อสะสม TPoints และเมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขที่โบรกเกอร์กำหนดครบแล้ว เงินโบนัสก็จะถูกเพิ่มเข้าสู่บัญชีของลูกค้าโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้การร่วมโครงการกำหนดช่วงเวลาสะสม TPoints เอาไว้สำหรับ 90 วันหลังจากลงทะเบียนร่วมกิจกรรมแล้วเท่านั้น
★ โปรแกรมคืนเงิน หลังจากลูกค้าฝากเงินเข้ามาแล้ว 12 วัน บัญชีจะถูกนำไปสมัครโปรแกรมคืนเงินโดดอัตโนมัติ และในทุกครั้งที่ลูกค้าเทรดก็จะมีการสะสมยอดเงินคืนเรื่อย ๆ จนสิ้นสัปดาห์จะมีการเพิ่มเงินคืนส่วนนี้กลับสู่บัญชีของลูกค้า โดยที่ยิ่งมีการเทรดมาก เงินคืนก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
จากที่กล่าวมา Plus500 ก็เป็นโบรกเกอร์ CFD โบรกหนึ่งที่เป็นที่รู้จักดีในอุตสาหกรรม ได้รับการอนุญาตและถูกกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 7 แห่ง เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนที่จะมีการตรวจสอบสถานะทางการเงินอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว ทำให้โบรกเกอร์แห่งนี้มีความน่าเชื่อถือสูง และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมายทั่วโลก มีการเปิดบัญชีได้ง่ายและรวดเร็ว มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกซื้อขายมากมาย และมีแพลตฟอร์มการเทรดที่เป็นมิตรกับนักเทรดมือใหม่
ทั้งนี้สำหรับนักเทรดชาวไทยอาจมีข้อจำกัดอยู่บ้างตรงที่ Plus500 ไม่ได้มีเว็บไซต์รวมถึงฝ่ายบริการลูกค้าที่สนับสนุนภาษาไทย การฝากถอนเงินไม่สนับสนุนช่องทางธนาคารไทย ทำให้การติดต่อมีข้อจำกัดอยู่บ้าง และเงินฝากขั้นต่ำกำหนดที่ 100 ดอลล่าร์ถือว่าสูงไปนิดนอกจากนี้หากพิจารณาถึงแพลตฟอร์มจะพบว่าเครื่องมือสนับสนุนการเทรดยังคงมีน้อย เลเวอเรจสำหรับบัญชีรายย่อยจะต่ำไปนิด และมีค่าใช้จ่ายจุกจิกกว่าโบรกเกอร์อื่น เช่น ค่าธรรมเนียมถอนเงิน ค่าธรรมเนียมเมื่อไม่เข้าใช้งานบัญชีเกินกว่า 3 เดือน ค่าธรรมเนียมการใช้ฟังก์ชั่น guaranteed Stop ซึ่งจะเป็นต้นทุนหนึ่งที่นักเทรดต้องแบกรับ
ด้วยรีวิวทั้งหมดนี้เราจึงให้คะแนนรวมสำหรับ Plus500 ไว้ที่ 7.0/10