ไม่รู้ว่ามีใครกำลังเจอปัญหานี้อยู่หรือเปล่า แต่หนึ่งในเรื่องที่ตัดสินใจยากสำหรับนักเทรดก็คือไม่รู้จะเลือกโบรกเกอร์ไหนมาเป็นบัดดี้คู่ใจสำหรับการเทรดดี เพราะนอกจากที่เราจะต้องไว้ใจกันขนาดที่ยอมโอนเงินไปให้โบรกเกอร์เก็บไว้ เรายังต้องอาศัยเครื่องมือ แพลตฟอร์มและปัจจัยสนับสนุนการเทรดให้เราไปได้ถึงจุดมุ่งหมายที่ต้องการ ซึ่งในบรรดาโบรกเกอร์มากมายที่มีให้เลือกสรรในปัจจุบัน หนึ่งในโบรกเกอร์ที่น่าจับตามองในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น MiTrade แต่ MiTrade ดีไหม? MiTrade เป็นโบรกเกอร์ forex ที่น่าเชื่อถือไหม? คราวนี้เราก็จะมารีวิว MiTrade ให้ฟังกัน
1.ทำความรู้จักกับ MiTrade
MiTrade เป็นโบรกเกอร์ที่ก่อตั้งขึ้นในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยมีปรัชญาเริ่มต้นคือการทำให้การเทรดเป็นเรื่องง่าย (Trading Simplified) ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเป็นนักเทรดมือใหม่หรือแม้แต่นักเทรดมืออาชีพก็สามารถใช้บริการของ MiTrade ได้ด้วยขั้นตอนที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และมีประสิทธิภาพ
กลุ่มบริษัท MiTrade ยังเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนสูงและได้รับการกำกับดูแลจากหลายหน่วยงาน ได่แก่:
1. Cayman Islands Monetary Authority (CIMA)
ชื่อจดทะเบียน:Mitrade Holding Ltd
หมายเลขใบอนุญาต:1612446

2. Australian Securities and Investments Commission (ASIC)
ชื่อจดทะเบียน:Mitrade Global Pty Ltd
หมายเลขใบอนุญาต:398528

เงินทุนของลูกค้าจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีทรัสต์แยกต่างหากจากบัญชีบริษัท เพื่อป้องกันการใช้เงินผิดประเภท และหากในกรณีที่ MiTrade ล้มละลาย เงินทุนลูกค้าก็ยังคงถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและถูกส่งกลับคืนลูกค้าได้อย่างครบถ้วน

2. MiTrade มีบริการอะไรที่น่าสนใจบ้าง?
MiTrade เป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขายสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Contract for Difference – CFD) ที่เปิดโอกาสให้นักเทรดได้ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายชนิดทั่วโลกในพอร์ตการลงทุนเพียงพอร์ตเดียว โดย MiTrade มีจุดเด่นของการให้บริการในด้าน
2.1) เสนอสินค้าหลากหลายให้เลือกเทรด
MiTrade มีสินค้ากว่า 170 ชนิดให้ลูกค้าเลือกเทรด ใน 5 กลุ่มสินทรัพย์
- สกุลเงิน อย่าง EURUSD, GBPUSD, USDJPY, AUDUSD
- หุ้น เช่น AAPL, FB, GOOG, TSLA, NKE, EBAY, NIO
- ดัชนี เช่น S&P 500, Dow Jones, NASDAQ 100, Nikkei 225
- สกุลเงินดิจิตอล เช่น Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Bitcoin Cash
- สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น Gold, Silver, WTI, Brent
ช่วยให้นักเทรดเลือกสินทรัพย์คู่ใจได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้นักลงทุนได้กระจายพอร์ตการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2) เสนอสเปรดการซื้อขายต่ำ มีขั้นต่ำในการซื้อขายน้อย ให้เลเวอร์เรจสูง
MiTrade ให้บริการซื้อขาย CFD ด้วยสเปรดต่ำสมเหตุสมผล มีจำนวนล็อตขั้นต่ำในการซื้อขายต่ำถึง 0.01 ล็อต และให้เลเวอร์เรจในการซื้อขายสูงสุด 200 เท่าตามตราสารที่ซื้อขาย Forex (1:200), ดัชนี (1:200), หุ้น (1:20), สินค้าโภคภัณฑ์ (1:200), สกุลเงินดิจิตอล (1:10)
2.3) แพลตฟอร์มเทรดใช้งานง่ายแต่ครบถ้วนด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน
MiTrade ไม่สนับสนุน MT4/MT5 แต่เสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่เรียบง่ายกว่ากับ webtrader ที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนที่หลากหลายโดยเน้นการออกแบบฟังก์ชั่นที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ทำให้แพลตฟอร์มนี้ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ แต่ก็ครบถ้วนด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานสำหรับนักลงทุนมืออาชีพและนักลงทุนมือโปร ช่วยให้การลงทุนเป็นไปอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ
ซึ่งหากคุณไม่ได้ตั้งใจจะใช้ automated strategies แล้วละก็ แพลตฟอร์มของ MiTrade ก็เรียกได้ว่ามีฟังก์ชั่นที่แทบจะครบและเพียงพอต่อการเทรดในแบบที่ไม่เยอะจนทำให้งงจนเสียจังหวะการเทรดแล้วละ
ไม่เฉพาะแค่เป็นแพลตฟอร์มไว้ใช้ส่งคำสั่งซื้อขาย แพลตฟอร์มของ MiTrade ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นสุดพิเศษที่จะช่วยสนับสนุนการเทรดของนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นกราฟแบบเรียลไทม์ที่มาพร้อมตัวชี้วัดทางเทคนิคหลากหลายให้นักเทรดได้เลือกใช้ มีเครื่องมือจัดการความเสี่ยง บริการแจ้งเตือนผ่านอีเมล์ SMS แบบเรียลไทม์ ปฏิทินทางเศรษฐกิจ การแจ้งเตือนราคา ข่าวสารแบบเรียลไทม์ ฯลฯ ทุกฟังชั่นถูกรวบรวมไว้แบบครบจบในระบบเดียว
แพลตฟอร์มการเทรดของ MiTrade สนับสนุนการใช้งานทั้งบนเว็บไซต์และมือถือ Android, iOS
หรือสามารถเช็คขั้นตอนการเทรดกับ Mitrade ที่วีดีโอนี้
2.4) มีเครื่องมือเทรดหลากหลายช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
MiTrade มีเครื่องมือและบริการหลากหลายเพื่อสนับสนุนการเทรดของลูกค้าให้ตัดสินใจด้วยความแม่นยำและทันต่อสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นกราฟราคาแบบเรียลไทม์ที่ช่วยให้เห็นแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าต่าง ๆ พร้อมทั้งเครื่องมือช่วยสนับสนุนการวิเคราะห์ เช่น การตีเส้นแนวโน้มและพิชฟอร์คเพื่อให้เห็นรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาบนกรอบและแนวโน้มที่คาดการณ์ เสริมด้วยการวาดบรัชและเครื่องมือช่วยวัดระยะ เพื่อให้การคาดการณ์เป็นไปอย่างแม่นยำมากขึ้น
กราฟราคาที่ MiTrade เสนอให้บริการ ลูกค้าสามารถเลือกปรับรูปแบบได้ตามต้องการ โดยสามารถเลือกรูปแบบกราฟบาร์ (Bar Chart), กราฟแท่งเทียน, กราฟเส้นที่เห็นพื้นที่ใต้กราฟ ฯลฯ ทั้งยังสามารถเปลี่ยนช่วงกรอบราคา (Time frame) ได้หลากหลาย คือ M1, M5, M15, M30, H1, H2, H4, D1, W1, M1 ในแบบที่ประยุกต์ใช้ได้กับทุกรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ไม่เพียงแค่เครื่องมือกราฟราคา MiTrade ยังเสนอตัวชี้วัดทางเทคนิค (Indicator) หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกใช้ครบทุกความต้องการที่จำเป็น ทั้งอินดิเคเตอร์ยอดฮิตอย่าง Simple Moving Averages (SMA), Exponential Moving Averages (EMA), Bollinger Bands, Zig Zag, Moving Average Convergence Divergence (MACD), Relative Strength Index (RSI), Commodity Channel Index (CCI), Average True Range (ATR), Weighted Moving Average ฯลฯ เป็นต้น
นอกจากเครื่องมือทางเทคนิค MiTrade ยังเสนอบทวิเคราะห์พื้นฐาน ห้องเรียนการลงทุน บทความการลงทุนอัปเดทอัปเดทข่าวสารแบบเรียลไทม์ และยังรวบรวมบทความเพิ่มทักษะในการเทรดและลงทุนไว้อย่างครบถ้วนทั้งบนเว็บไซต์และในแอปพลิเคชั่น
MiTrade ยังเสนอบริการที่เอื้อให้สามารถประเมินสถานการณ์การลงทุนได้ง่ายขึ้นด้วยปฏิทินทางเศรษฐกิจที่รวบรวมเอาเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในโลกการเงินมาไว้

และประเมินอารมณ์ตลาดได้จากการวิเคราะห์ดัชนีความเชื่อมั่นและการคาดการณ์ที่รวบรวมมุมมองของผู้เชี่ยวชาญในตลาดและอุตสาหกรรมต่าง ๆ สะท้อนออกมาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

โดยลูกค้าจะได้รับการแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงของราคา มีการแจ้งเตือนผ่านอีเมลและ SMS แบบเรียลไทม์ ให้ไม่พลาดทุกจังหวะในการลงทุน
2.5) เสนอเครื่องมือจำกัดความเสี่ยงปกป้องเงินทุนของลูกค้า
การส่งคำสั่งซื้อขายกับ MiTrade ลูกค้าสามารถเลือกส่งคำสั่งได้ทั้งคำสั่งที่เป็นการซื้อขาย ณ ราคาตลาด (Market Order) หรือ การตั้งราคาทิ้งไว้ (Pending Order) ซึ่งสำหรับการตั้งราคาทิ้งไว้ นักลงทุนยังสามารถเลือกฟังก์ชั่นได้ว่าจะเป็นการตั้งรอ (Limit Order), หรือเป็นการซื้อ/ขายตาม (Stop Order)
ทั้งนี้ไม่ว่านักเทรดจะตั้งออเดอร์แบบไหนไว้ หากออเดอร์นั้นยังไม่แมทช์ลูกค้าก็สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือ ยกเลิก คำสั่งได้ตลอดเวลา
MiTrade ยังมีฟังก์ชั่นควบคุมความเสี่ยงในการเทรดเพื่อไม่ให้ในแต่ละคำสั่งของลูกค้าแบกรับความเสี่ยงมากจนทำให้พอร์ตการลงทุนเสียหายด้วยฟังก์ชั่น stop loss และ trailing stop และมีการควบคุมความเสี่ยงอีกขั้นด้วยระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบที่จะไม่ให้ลูกค้าต้องเผชิญการขาดทุนมากเกินกว่าจำนวนเงินที่นำมาใช้ในการลงทุนเพื่อป้องกันการเป็นหนี้เมื่อตลาดเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ด้วยแพลตฟอร์ม ระบบ และเครื่องมือที่ MiTrade ออกแบบและเตรียมพร้อมสำหรับลูกค้า ทำให้มั่นใจได้ว่าการเทรดกับ MiTrade ลูกค้าจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งจากข้อมูลและเครื่องมือ เพื่อให้ลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการในการเทรดได้อย่างสมบูรณ์
3. ประเภทบัญชีและการเปิดบัญชีซื้อขาย
สำหรับลูกค้าในประเทศไทย MiTrade ให้บริการด้วยประเภทบัญชีแบบเดียว คือ แบบมาตรฐาน (Standard Account) ซึ่งรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้ารายย่อยทั้งหมด โดยที่ไม่ได้เปิดให้บริการบัญชีนิติบุคคล (Corporate Accounts) หรือ บัญชีร่วมรูปแบบอื่น ๆ
บัญชีมาตรฐานของ MiTrade สามารถเปิดใช้บริการได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ ด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน และใช้เอกสารเพียงแค่บัตรประชาชนหนึ่งใบเท่านั้น โดยเริ่มจาก
- ลงทะเบียนด่วนด้วยการกรอกหมายเลขโทรศัพท์, Email, หรือใช้ Google Account, Facebook, Apple ID ที่มีอยู่อย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อใช้ยืนยันการใช้งานธุรกรรม
- เริ่มลงทะเบียนด้วยการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลให้ครบถ้วน
- ยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน

เมื่อครบทั้งสามขั้นตอนเรียบร้อย บัญชีมาตรฐานของลูกค้าก็จะพร้อมสำหรับการใช้งานภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที
สำหรับลูกค้าที่ยังลังเลไม่แน่ใจ MiTrade มีบริการบัญชีทดลอง (Demo Account) ให้ได้ทำความคุ้นเคยกับการใช้งานแพลตฟอร์มการเทรดของ MiTrade และได้ทดสอบระบบเทรด
บัญชีทดลองของ MiTrade มาพร้อมกับเงินเสมือนจริงกว่า USD50,000 เพื่อให้ลูกค้าทำการทดลองเทรดและทดสอบกลยุทธ์ โดยบัญชีดังกล่าวจะใช้ระบบเดียวกันกับบัญชีเทรดจริงของ MiTrade ทำให้ลูกค้าที่สนใจสามารถใช้งาน เมนูเทรด ข้อมูล กราฟเทคนิค และเครื่องมือต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกับลูกค้าทั่วไป
ลูกค้าที่สนใจสามารถสมัครเปิดบัญชีทดลองกับ MiTrade ได้ด้วยที่อยู่อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ แล้วตั้งค่ารหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ
ปกติแล้วบัญชีทดลองเทรดของ MiTrade จะไม่มีวันหมดอายุ แต่อาจจะไม่สามารถใช้งานเป็นชั่วคราวหลังจากมีการใช้งาน 90 วัน ในกรณีนี้ เพียงแต่ทำการอัพเดทบัญชีทดลองเป็นบัญชีจริงด้วยการยืนยันตัวตน ก็สามารถเข้าใช้งานได้อีกแล้ว หรือหากลูกค้าเปิดบัญชีเทรดจริงตั้งแต่แรกหรืออัพเดทบัญชีทดลองเป็นบัญชีจริงระหว่าง 90 วันนั้น บัญชีทดลองที่เปิดไว้ก็จะสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา
ซึ่งทั้ง บัญชีมาตรฐาน และ บัญชีทดลอง ของ MiTrade ต่างก็เพียงพอสำหรับการเรียนรู้ฟังก์ชั่นการใช้งาน การทดสอบระบบและกลยุทธ์ รวมไปถึงการใช้เพื่อการเทรดในสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. การฝากถอนเงินและค่าธรรมเนียม
การฝากเงินกับ MiTrade มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ลูกค้าสามารถโอนเงินเข้าบัญชีผ่าน QR Code, ธนาคารออนไลน์สัญชาติไทยต่าง ๆ รวมถึง Skrill ที่จะทำให้ตัวเงินที่โอนเข้ามาตรงเข้าสู่บัญชีซื้อขายทันทีโดยไม่มีค่าธรรมเนียม
สำหรับการฝากเงิน MiTrade ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ แต่ธนาคารหรือสถาบันการเงินตัวกลางทำธุรกรรมอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามข้อกำหนดของแต่ละองค์กรได้

การถอนเงินกับ MiTrade ลูกค้าสามารถถอนเงินได้ทุกเมื่อตลอดช่วงเวลาการให้บริการ Mitrade จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงิน เว้นแต่ว่าลูกค้ามีจำนวนการถอนเงินที่ต่ำกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำ และ / หรือมีจำนวนการถอนเงินฟรีเกินจำนวนสูงสุดสำหรับเดือนนั้น
นอกจากการฝากถอนเงินแล้ว MiTrade ให้บริการโดยปราศจากค่าธรรมเนียมอื่นใด ไม่มีค่าบริการแอบแฝง นอกเหนือไปจากสเปรดราคาและค่าธรรมเนียมการถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืนตามที่ระบุไว้ โดยจะคิดค่าธรรมเนียมการถือคำสั่งข้ามคืนสำหรับคำสั่งที่มีการถือออเดอร์หลังจากเวลา 4.00 A.M. ตามเวลาในประเทศไทย (GMT 22:00)
5. การติดต่อ MiTrade และฝ่ายบริการลูกค้า
MiTrade มีฝ่ายบริการลูกค้าที่ให้บริการด้วยภาษาไทย ดังนั้นภาษาจึงไม่ใช่อุปสรรคสำหรับลูกค้าที่ต้องการติดต่อขอความช่วยเหลือกับโบรกเกอร์นี้
ฝ่ายบริการลูกค้าของ MiTrade ให้บริการด้วยเจ้าหน้าที่ที่มีความเป็นมืออาชีพคอยดูแลให้คำปรึกษาปัญหาตลอด 24 ชั่วโมงใน 5 วันทำการของสัปดาห์ และจะทำการติดต่อลูกค้ากลับทันทีเมื่อเป็นไปได้ด้วยบริการที่เป็นมาตรฐาน
ลูกค้าหรือนักเทรดสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ MiTrade ได้ทาง
– Live Chat ที่หน้าเว็บไซต์
– อีเมล cs@mitrade.com
ซึ่งแม้ MiTrade จะยังไม่มีคู่สายโทรศัทพ์ให้บริการ แต่ยังมีช่องทางอื่นที่สะดวกมากขึ้นและให้บริการเป็นภาษาไทยรองรับ โดยลูกค้าสามารถใช้บริการช่องทางต่าง ๆ แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย และติดต่อได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังส่งผ่านข้อมูลจำพวกรูปภาพและข้อความเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถแก้ปัญาหรือให้คำปรึกษาได้อย่างถูกจุด ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นการติดต่อที่รวดเร็วทันท่วงทีไม่แพ้การพูดคุยผ่านโทรศัพท์ แต่ให้ประสิทธิผลในการพูดคุยได้มากกว่า
6. MiTrade กับรางวัลการันตีความสำเร็จ
นับจากจุดเริ่มต้นของ Mitrade ที่ต้องการให้การเทรดเป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนเข้าถึงได้ นำไปสู่การออกแบบแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ลดความซับซ้อนแต่เปี่ยมด้วยเครื่องมือหลากหลาย, มีระบบสนับสนุนการเทรดทั้งข้อมูลพื้นฐานและเครื่องมือทางเทคนิคอันทรงประสิทธิภาพ, รวมไปถึงบริการที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งหมดนี้ทำให้นับตั้งแต่การเปิดให้บริการในปี 2019 เป็นต้นมา MiTrade ได้รับรางวัลจากสถาบันชั้นนำของอุตสาหกรรมไว้การันตีผลงานและความสำเร็จในฐานะที่เป็นโบรกเกอร์ให้บริการซื้อขายสินค้าทางการเงินอีกมากมาย
เช่น
- รางวัลโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในเอเชีย ปี 2020 จาก Forex Awards
- รางวัล โบรกเกอร์ที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยมในปี 2020 จาก FxDaily Info
- รางวัลแพลตฟอร์มการเทรดบนมือถือที่ดีที่สุดในปี 2019 และ 2020 จาก Forex Awards
- รางวัลโบรกเกอร์ที่มีการเติบโตสูงที่สุดในออสเตรเลียปี 2019 และ 2020 จาก นิตยสาร International Business Magazines
- รางวัลแอพพลิเคชั่นเทรดฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในออสเตรเลียปี 2020 จาก นิตยสาร International Business Magazines
และอีกมากมาย

นอกจากนี้ MiTrade ยังถูกกล่าวถึงจากองค์กรทางธุรกิจที่มีชื่อเสียงในวงการการเงินระดับโลกอย่าง Nasdaq.com และ Finance Magnates ในบทสัมภาษณ์ผู้บริหารอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถการันตีความสามารถ ศักยภาพ ความสำเร็จ และวิสัยทัศน์ของ MiTrade ในการเป็นโบรกเกอร์ที่มุ่งมั่นให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ได้เป็นอย่างดี
สุดท้าย สำหรับนักเทรดที่ยังไม่สามารถตัดสินใจหาโบรกเกอร์คู่ใจได้ หรือแม้แต่นักเทรดที่กำลังเผชิญปัญหาการใช้บัญชีเทรด การใช้เครื่องมือสนับสนุนเทรด หรืออาจเป็นปัญหาการติดต่อกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ MiTrade ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยแพลตฟอร์มการเทรดที่พัฒนาขึ้นเองที่มีจุดเด่นด้วยการใช้งานง่าย ผนวกกับสินค้าที่ให้บริการหลากหลายกว่า 170 ชนิด ครอบคลุมทุกประเภทสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นค่าเงิน หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินดิจิตอล ทำให้ MiTrade ค่อนข้างครบและตอบสนองกับทุกความต้องการของเทรดเดอร์
MiTrade ยังคงเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนทั่วโลก นักลงทุนกว่า 800,000 รายเลือกโบรกเกอร์นี้เป็นเพื่อนคู่ใจสำหรับการเทรด และนักเทรดก็มั่นใจได้เลยว่ากำลังทำธุรกรรมอยู่กับโบรกเกอร์ที่น่าคบหา แม้จะยังคงมีข้อจำกัดในด้านของแพลตฟอร์มการเทรดที่ไม่ได้ใช้ Metatrader แต่หากนักเทรดไม่ได้มีชั่วโมงบินสูงมากหรือตั้งใจใช้ automated strategies การใช้แพลตฟอร์มการเทรดของ MiTrade ก็ถือว่าเพียงพอและครบจบสำหรับการเทรดสินค้าทุกชนิดแล้ว และมั่นใจได้เลยว่าบริการทั้งด้านข้อมูล เทคนิค และเครื่องมือต่าง ๆ จาก MiTrade จะช่วยส่งให้นักเทรดบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ไม่ยากนัก