หลังจากสร้างความฮือฮาจนเป็นที่รับรู้ไปจนถึงนางเจเน็ต เยลเลนรัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ของสหรัฐเป็นที่เรียบร้อย การรวมพลังของรายย่อยในวอลสตรีทอันมีจุดเริ่มต้นจาก GME ยังกระจายไปสู่ตลาดโลหะเงินจนขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 8 ปี
แล้วการปรับตัวขึ้นครั้งนี้จะเสถียรหรือไม่ เราจะกำหนดกลยุทธ์การลงทุนโลหะเงิน(silver)ท่ามกลางความผันผวนนี้อย่างไร เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราจะมาดูกัน
อัปเดทสถานการณ์ตลาดโลหะเงิน (Sliver)
หลังการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงของหุ้น Gamestop ที่นักลงทุนรายย่อยใน Reddit พากันล็อกเป้าหมายเอาคืนนักลงทุนกลุ่มสถาบันและกองทุนรายใหญ่ที่ Short หุ้นตัวนี้เอาไว้จนต้องมาไล่ซื้อหุ้นกลับในราคาที่สูงจนเกิดความผันผวนของราคาเป็นที่ฮือฮาของนักลงทุนทั่วไป
ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 ความผันผวนของราคาได้เกิดขึ้นกับตลาดโลหะเงินที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในวันกว่า 8.20% และทำจุดสูงสุดในวันไว้ที่ $30.35 ซึ่งนับเป็นจุดสูงสุดที่ทำได้ในรอบ 8 ปีนับตั้งแต่ปี 2013 เลยทีเดียว แม้ว่าจะไม่มีปัจจัยใดบ่งชี้ทั้งยังไม่มีตัวบ่งชี้จากราคาสินทรัพย์อื่นเลยก็ตาม และความผันผวนที่เกิดขึ้นนี้อาจส่งผลกับนักลงทุนที่มีถือสถานะสัญญา
ในวันถัดมาตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก (Chicago Mercantile Exchange) จึงออกระเบียบใหม่โดยปรับเพิ่มเงินวางมาร์จิ้นของสัญญาเพื่อลดความร้อนแรงของการเก็งกำไรในตลาดโลหะเงิน จนส่งผลให้ราคาโลหะเงินถูกดึงกลับลงมา (Pull Back) ปิดที่ $26.40 ซึ่งอาจมองว่าเป็นการจบรอบเล็ก ๆ ที่ปรับขึ้นมาในคราวนี้แล้วก็ได้
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาโลหะเงิน(silver)
จากความผันผวนที่เกิดขึ้นซึ่งเกิดจากการเก็งกำไรโดยไม่ได้มีปัจจัยพื้นฐานรองรับทำให้การปรับตัวขึ้นในครั้งนี้เป็นไปแบบไม่เสถียรจนอาจเกิดความเสียหายกับสถานะการลงทุนได้
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนี้ เราจึงควรพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาโลหะเงินเพื่อสนับสนุนการกำหนดกลยุทธ์ด้วยทุกครั้ง ซึ่งราคาโลหะเงินมักถูกกระทบจากปัจจัยเหล่านี้
ความต้องการซื้อขายโลหะเงิน (Demand-Supply)
โลหะเงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการผลิตได้จำกัดและอยู่ภายใต้กฎ Demand-Supply เหมือนสินค้าอื่น ๆ ที่หากปริมาณโลหะเงินขาดแคลน ขณะที่ความต้องการซื้อโลหะเงินมีมากขึ้นก็จะกดดันให้ราคาโลหะเงินปรับเพิ่มสูงขึ้น
ในทางกลับกันหากปริมาณโลหะเงินในตลาดมีมาก ขณะที่มีความต้องการซื้อน้อย ราคาโลหะเงินก็จะปรับตัวลดลง
การขยายตัวของอุตสาหกรรมที่ใช้เงินเป็นวัตถุดิบ
ภาคอุตสาหกรรมเป็นส่วนที่บริโภคโลหะเงินของโลกสูงที่สุด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรูปถ่ายและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต้องใช้โลหะเงินที่มีความไวต่อแสงสูงเป็นวัตถุดิบ ซึ่งหากมีการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล่านี้ก็มีโอกาสผลักดันให้ราคาโลหะเงินปรับตัวสูงขึ้น
ในทางตรงกันข้ามหากอุตสาหกรรมเหล่านี้หดตัวลง ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ราคาโลหะเงินปรับตัวลดลง
ราคาทองคำ
แม้ว่าอัตราส่วนทองคำต่อเงิน (Gold-Silver Ratio) ยังเป็นที่ถกเถียงกัน แต่หากเรานำข้อมูลในอดีตของทองคำและโลหะเงินมาเปรียบเทียบกันจะพบว่าราคาโลหะมีค่าทั้งสองมักมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันและมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยยะ โดยหากราคาทองคำปรับตัวขึ้น ก็มีแนวโน้มว่าราคาโลหะเงินก็กำลังอยู่ในทิศทางขาขึ้นเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม หากราคาทองคำอยู่ในทิศทางขาลง ราคาโลหะเงินก็มีแนวโน้มเป็นขาลงเช่นเดียวกัน
ซึ่งเหตุการณ์นี้พออธิบายได้ว่านักลงทุนมักมองโลหะมีค่าทั้งสองในคลาสเดียวกันและในลักษณะทดแทนกันได้ จึงมีแนวโน้มปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน
ค่าเงินดอลลาร์
เนื่องจากโลหะเงินที่ซื้อขายในตลาดโลกมีการซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินดอลลาร์จึงส่งผลอย่างมีนัยยะต่อราคาโลหะเงินด้วยเช่นกัน
วิธีการลงทุนในโลหะเงิน(silver)
เมื่อเราพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาโลหะเงินจนพอจะประเมินแนวโน้มและทิศทางราคาได้บ้างแล้ว สำหรับการลงทุนในโลหะเงินเราก็ควรมากำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเงื่อนไขและข้อจำกัดของนักลงทุนแต่ละคน ซึ่งแน่นอนว่าก็มีหลากหลายทางให้เลือก เช่น
การซื้อเม็ดเงินบริสุทธิ์
วิธีนี้นักลงทุนจะต้องไปติดต่อร้านทองและติดต่อซื้อเม็ดเงินบริสุทธิ์มาเก็บรักษาไว้ ซึ่งจะเป็นวิธีการลงทุนในโลหะเงินที่ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นนอกจากสเปรดราคาซื้อขาย นักลงทุนจึงสามารถลงทุนในเม็ดเงินบริสุทธิ์ได้ด้วยการซื้อมาเก็บไว้ และรอเวลาหลายปีหรืออาจเป็นสิบปีเพื่อให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นแล้วค่อยนำออกมาขายเพื่อทำกำไร ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้เอื้อให้ทำกำไรได้เฉพาะในทิศทางราคาขาขึ้นเท่านั้น
ทั้งนี้การซื้อเม็ดเงินบริสุทธิ์ก็ยังมีขั้นตอนการซื้อขายที่เฉพาะเจาะจงและมีสภาพคล่องต่ำ ทำให้ไม่เอื้อกับการซื้อขายจำนวนมากและบ่อยครั้ง แต่เหมาะกับการซื้อแล้วถือเก็บไว้เป็นระยะเวลานาน หรือเพื่อใช้เป็นตัวรักษาความมั่งคั่งมากกว่า
กองทุนโลหะเงิน
วิธีซื้อกองทุนโลหะเงินมีข้อดีคล้ายกับการซื้อเม็ดเงินบริสุทธิ์ที่สามารถถือไว้ได้ในระยะยาวโดยไม่เสื่อมูลค่าไปตามเวลา ขณะที่ช่วยเพิ่มความได้เปรียบขึ้นอีกหลายประการ เช่น นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนในการเก็บรักษาเม็ดเงินบริสุทธิ์ และการซื้อกองทุนมีสภาพคล่องในการซื้อขายมากกว่าการซื้อเม็ดเงินบริสุทธิ์ที่สามารถสั่งซื้อขายผ่านกองทุนได้ในช่วงเวลาทำการ การลงทุนวิธีนี้จึงเหมาะกับการลงทุนทั้งในระยะกลางและระยะยาว
ทั้งนี้การซื้อกองทุนก็ยังคงข้อจำกัดของการทำกำไรไว้เฉพาะในทิศทางราคาขาขึ้น และทำการซื้อขายได้วันละ 1 ครั้ง ณ ระดับราคาปิดสิ้นวันเท่านั้น และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงให้ผู้จัดการกองทุน
สัญญาเงินฟิวเจอร์สโลหะเงิน (silver futures)
สัญญาเงินฟิวเจอร์สเป็นสัญญาอนุพันธ์ประเภทหนึ่งที่ช่วยลดข้อจำกัดของการลงทุนในกองทุนโลหะเงินมากขึ้นไปอีก นั่นคือ การซื้อขายสัญญานี้นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีโลหะเงินผ่านมือเลยแต่สามารถสร้างผลกำไรนจากราคาสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไปได้ และสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน ตลอด 5 วันทำการต่อสัปดาห์ และทำกำไรได้ทั้งทิศทางราคาขาขึ้นและขาลง
แต่ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีสัญญาเงินฟิวเจอร์ส หากนักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้จำเป็นต้องติดต่อโบรกเกอร์ที่เป็นตัวแทนซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศ ซึ่งมักมีขั้นตอนซับซ้อนและใช้เงินลงทุนสูง เช่น การลงทุนในสัญญาโลหะเงินฟิวเจอร์ส 1 สัญญาต้องใช้เงินมาร์จิ้น $16,500 ถึง $14,000 หรือราว ฿495,000-420,000
สัญญาซื้อขายส่วนต่างโลหะเงิน (silver CFD)
CFD(Contract for Difference) หรือ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง เป็นสัญญาอนุพันธ์อีกประเภทหนึ่งที่ย่อส่วนลงมาจากสัญญาฟิวเจอร์ส โดยโบรกเกอร์จะอนุญาตให้นักเทรดวางเงินเพียงบางส่วนในการซื้อขายมูลค่าสัญญาอ้างอิงราคาโลหะเงิน และสามารถได้รับผลกำไรได้เทียบเท่ามูลค่าสัญญาเต็ม ซึ่งนั่นหมายความว่าการซื้อขาย CFD นักเทรดจะไม่ได้กำลังซื้อขายและเป็นเจ้าของโลหะเงินแต่เป็นสัญญาทางการเงินที่อ้างอิงกับราคาโลหะเงินเท่านั้น
ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินได้ด้วยเงินลงทุนน้อย แต่สามารถใช้ความได้เปรียบของอัตราทดเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร และสามารถทำกำไรได้ทั้งทิศทางราคาขาขึ้นและขาลง โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของหรือถือครองโลหะเงินเลย ทั้งยังมีสเปรดการซื้อขายต่ำ สามารถทำการซื้อขายได้ทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน และตลอด 5 วันทำการต่อสัปดาห์
ยกตัวอย่างในการเทรด silver กับโบรกเกอร์ MiTrade:
สถานะ Long:
ด้วยเงื่อนไขจาก MiTrade วิธีการซื้อขายโลหะเงินด้วย CFD นั้นมีขั้นตอนง่าย ๆ นั่นคือ ณ ระดับที่โลหะเงินราคา $26.60 หากนักลงทุนมองว่าราคาเงินกำลังจะปรับตัวขึ้นไปอีก ให้เปิดสถานะ Long เพื่อคาดหวังผลกำไรในราคาขาขึ้น โดยวางเงินสัญญาขั้นต่ำ $13.30(=$26.60 *5000 Troy Ounce*0.01 Lot/100) ต่อขนาดสัญญา 0.01 lot บนอัตราทด 1:100 และเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเป็น $26.87 ก็ปิดสถานะเพื่อรับรู้กำไร $13.5[=($26.87-$26.60)*5000 Troy Ounce*0.01 Lot] หรือเรียกได้ว่าการเปลี่ยนแปลง 1% ของราคาเงินในตลาดอ้างอิง สามารถสร้างผลกำไรได้ 100% สำหรับการซื้อขาย CFD ได้เลย
สถานะ Short:
ในทางกลับกัน ณ ระดับที่โลหะเงินราคา $26.60 หากมองว่าราคาโลหะเงินกำลังจะปรับตัวลดลง ให้เปิดสถานะ Short เพื่อคาดหวังผลกำไรจากส่วนต่างในทิศทางราคาขาลง โดยวางเงินสัญญาขั้นต่ำ $13.30(=$26.60 *5000 Troy Ounce*0.01 Lot/100) ต่อขนาดสัญญา 0.01 lot บนอัตราทด 1:100 และเมื่อราคาปรับตัวลงมาที่ $26.33[=($26.60-$26.33)*5000 Troy Ounce*0.01 Lot] ก็ปิดสถานะเพื่อรับรู้กำไร $13.5 ได้เช่นเดียวกัน

MiTrade เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงเนื่องจากอยู่ภายใต้การกับกับดูแลของ ASIC ที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบเพื่อปกป้องเงินทุนของลูกค้าให้ปลอดภัย ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้ากว่า 270,000 บัญชีทั่วโลก ทั้งยังเป็นเจ้าของ ‘รางวัลแพลตฟอร์มเทรดบนมือถือที่ดีที่สุด’ จาก Forex Awards ในปี 2019, ‘รางวัลโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เติบโตเร็วสุดในออสเตรเลีย’ จากนิตยสาร International Business ในปี 2019/2020 , ‘รางวัลแอพพลิเคชั่นเทรดฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในออสเตรเลีย’ จากนิตยสาร International Business ในปี 2020 และ ‘รางวัลโบรกเกอร์ที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยม’ จากเว็บไซต์ FxDailyInfo ในปี 2020
เมื่อทำการเทรด silver ที่ MiTrade มีความได้เปรียบหลายอย่าง เช่น
1. ปริมาณการซื้อขายจะต่ำถึง 0.01 ล็อตและเลเวอเรจสูงถึง 1:100 ชึ่งจะช่วยลดเงินทุนเริ่มต้นและขยายขอบเขตในการทำกำไรได้ 2. ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดแบบลอยตัวต่ำถึง 0.027 ช่วยลดต้นทุนในการเทรด ทำให้กำไรที่ได้จะมากขึ้น 3. เงินฝากขั้นต่ำ $50 USD (ประมาณ 1500 บาท) เอง นักลงทุนไทยสามารถฝากเงินผ่าน Thai QR Code และ Thai Online Banking และไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากถอนเงิน 4. หากติดปัญหาใดๆ ในการเทรดหรือปัญหาอื่นๆ สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่คนไทยตลอด 24 ชั่วโมง 5 วัน ซึ่งได้อำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนไทยอย่างมาก 5. รับครบครันด้วยเครื่องมือสนับสนุนการเทรดต่างๆ ให้ใช้ฟรี เช่น กราฟราคาแบบเรียลไทม์ ปฏิทินทางเศรษฐกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ 6. เสนอเครื่องมือจัดการความเสี่ยงเพื่อให้นักลงทุนควบคุมความเสี่ยงในการเทรด เช่น stop loss/trailing stop และยังมีระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบด้วย |
ต่อไปผมจะแนะนำขั้นตอนการเทรด silver กับ MiTrade step-by-step:
1. ลงทะเบียน กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มและยืนยันตัวตนผ่านเว็บไซต์ให้เรียบร้อย เพียงไม่กี่นาทีบัญชีของคุณก็พร้อมสำหรับการใช้งาน

2. โอนเงินเข้าบัญชี ลูกค้าสามารถโอนเงินเข้าเป็นหลักประกันในบัญชีได้ทันที

3. เปิดคำสั่งซื้อขาย เปิดสถานะซื้อหรือสถานะขายโดยตั้งค่าปริมาณการซื้อขาย และยังสามารถกำหนดจุด take profit/stop loss/Trailing Stop Loss หรือตั้งคำสั่งซื้อขายกำจัดได้

4.ปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อรับกำไร/ขาดทุน เมื่อราคาไปถึงที่เราคาดเอาไว้ เราปิดคำสั่งรับกำไรได้เลย

ในช่วงจังหวะที่ราคาโลหะเงินมีความผันผวนสูง การลงทุนโลหะเงิน(silver)ที่จะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสในการทำกำไรได้นั้นจำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลและเลือกเครื่องมือเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับกลยุทธ์ที่เราเลือกมากที่สุด และหากทำเช่นนั้นได้แน่นอนว่าผลกำไรจะอยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอน
