ซื้อทองคําแท่งเก็งกําไรดีไหม 2565

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกมานานนับตั้งแต่ครั้งประวัติศาสตร์ ทองคำเคยกลายเป็นเงินตราใช้แลกเปลี่ยนสินค้า จนปัจจุบันก็ยังคงรักษามูลค่าและกลายเป็นที่ต้องการของผู้คนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยรักษาความมั่งคั่งไม่ให้เสื่อมลงไปตามเวลาเช่นสกุลเงิน 

สำหรับการลงทุนในทองคำ การซื้อทองคําแท่งเก็งกําไรก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เรารู้จักกันมานานและคงเคยเห็นคนรุ่นปู่ย่าหรือรุ่นพ่อแม่นำวิธีนี้มาใช้กันอยู่บ้าง แต่ในปัจจุบันที่ตลาดเงินขยายตัว เรายังคงมีวิธีลงทุนในทองคำอีกมากมายที่จะตอบสนองเป้าหมายในการลงทุนที่แตกต่างกันของนักลงทุนแต่ละคน เช่น การลงทุนในทองคำแท่ง การลงทุนในกองทุน การเทรดสัญญาฟิวเจอส์ หรือการซื้อขาย CFD

ทองคำแท่ง

การซื้อทองคําแท่งเก็งกําไรเป็นวิธีลงทุนที่ตรงไปตรงมาวิธีหนึ่ง และเป็นที่ได้รับความนิยมมายาวนาน อีกทั้งขั้นตอนการลงทุนก็เรียบง่ายโดยเริ่มจากการไปติดต่อร้านทอง เช็กจำนวนทองคำที่ต้องการซื้อ ชำระเงิน แล้วรับทองคำมาเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย และเมื่อราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นไปถึงจุดที่ต้องการก็นำทองคำกลับไปขายเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินและผลกำไรกลับมา

การลงทุนในทองคำแท่งทำให้นักลงทุนอุ่นใจได้ว่าจะได้เป็นเจ้าของทองคำจริง ๆ โดยมีต้นทุนสำหรับการลงทุนคือค่าสเปรดการซื้อขายรวมถึงต้นทุนในการเก็บรักษาทองคำให้ปลอดภัย ทั้งนี้การซื้อขายทองแท่งนั้นมีขั้นตอนและเสียเวลาทำให้ไม่เหมาะกับการซื้อ ๆ ขาย ๆ นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องวางเงินเต็มจำนวนและทำกำไรได้จากส่วนต่างราคาขาขึ้นเท่านั้น 

ด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ ทำให้การซื้อทองคำแท่งเหมาะสำหรับเป็นเครื่องมือที่ใช้กับกลยุทธ์การซื้อแล้วถือในระยะเวลานานระดับหลายปีมากกว่าการซื้อขายบ่อย ๆ หลาย ๆ ครั้ง

กองทุนทองคำ 

วิธีนี้เป็นการเพิ่มความคล่องตัวให้กับการลงทุนในทองคำ โดยที่นักลงทุนจะนำเงินไปซื้อหน่วยลงทุนกับบลจ.ที่ลงทุนในทองคำ ซึ่งกองทุนจะนำเงินทุนเหล่านี้ไปซื้อทองคำมาบริหารพอร์ตการลงทุนของตัวเองอีกที โดยหากราคาทองคำเปลี่ยนไป มูลค่าของหน่วยลงทุนก็จะเปลี่ยนตาม และส่งผลต่อกำไร/ขาดทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนในสัดส่วนเดียวกัน

วิธีนี้นักลงทุนจะไม่ได้เป็นเจ้าของทองคำจริง ๆ จึงไม่ต้องมีต้นทุนในการเก็บรักษาและดูแลความปลอดภัยเหมือนทองคำแท่ง แต่ก็เป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาคล้ายกับการซื้อทองคําแท่งเก็งกําไรตรงที่ว่า หากราคาทองคำปรับเพิ่มในสัดส่วนเท่าไหร่ ผลกำไรของนักลงทุนก็จะเพิ่มขึ้นในสัดส่วนเดียวกันเหมือน ๆ กับการซื้อทองคำ (ไม่มีอัตราทด) และสามารถใช้ทำกำไรได้เฉพาะในทิศทางราคาขาขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้การซื้อกองทุนทองคำยังคงมีรายละเอียดอีกหลายอย่างเช่น ซื้อขายได้เพียงวันละครั้งตลอด 5 วันทำการของสัปดาห์ นักลงทุนจึงจะไม่ทราบราคาซื้อขาย ณ วันนั้น แต่ทำได้เพียงกะประมาณโดยคร่าว ๆ เท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายกองทุนและบางกองทุนอาจมีขั้นต่ำในการลงทุนด้วย

เนื่องจากการลงทุนในกองทุนทองคำมีต้นทุนการซื้อขายก้อนใหญ่เพียงก้อนเดียวที่เป็นค่าธรรมเนียมในการซื้อขายกองทุน บางกองจะมีขั้นต่ำในการลงทุนที่ 5,000 บาท ทำให้วิธีนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งที่อาจไม่เหมาะกับการซื้อ ๆ ขาย ๆ ที่จะทำให้มีต้นทุนสูง แต่เหมาะกับการถือในระยะกลางถึงยาวเพื่อเก็งกำไรเป็นรอบหรือการสะสมมูลค่าในระยะยาวมากกว่า

สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures)

การลงทุนในทองคำด้วยสัญญาซื้อขายทองล่วงหน้าเป็นวิธีที่มีเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อนขึ้นมากว่าการซื้อทองคําแท่งเก็งกําไร กล่าวคือจะไม่ได้เป็นการลงทุนที่นำเม็ดเงินหรือส่งผ่านเม็ดเงินไปซื้อทองคำจริง ๆ แต่เป็นการซื้อขายตราสารทางการเงินที่อ้างอิงกับราคาทองคำ ซึ่งสัญญาตัวนี้จะเป็นตัวกำหนดว่าในอนาคตผู้ที่ซื้อขายสัญญาเหล่านี้จะทำการส่งมอบและซื้อขายทองคำที่ราคาเท่าไหร่ในอนาคต (แต่ถ้าหาก offset สัญญาก่อนวันหมดอายุก็จะไม่เหลือสถานะให้ส่งมอบ) ซึ่งใช้ในการสร้างผลกำไรได้ทั้งในทิศทางราคาทองคำขาขึ้นและขาลง

การซื้อขายสัญญาล่วงหน้านี้จะเกิดขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์/อนุพันธ์ชิคาโก โดยการซื้อขายสัญญาฯ ทองคำล่วงหน้าจะเป็นการซื้อขายขนาด 100 ออนส์ต่อสัญญา (หากทองคำราคา $1,800 มูลค่าสัญญาจะอยู่ที่ $180,000) และต้องมีการวางมาร์จิ้นขั้นต่ำราวต่อสัญญา 5,000 (คิดเป็นเงินไทยราว 150,000 บาท) ซึ่งคิดเป็นเงินลงทุนก้อนใหญ่ต่อสัญญาจึงไม่เหมาะกับนักลงทุนรายย่อย 

การลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าจึงเป็นคล้ายการเก็งกำไรบนการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ ที่เหมาะกับการซื้อขายของดีลเลอร์ทองคำรายใหญ่ หรือเป็นเครื่องมือที่สถาบันการเงินรายใหญ่ใช้สำหรับประกันความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน มากกว่าจะเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนรายย่อยนำมาใช้

สัญญาซื้อขายส่วนต่างทองคำ (Gold CFD)

สัญญาซื้อขายส่วนต่างทองคำ หรือ Gold CFD เป็นการลงทุนที่มีส่วนคล้ายการซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้ามากที่สุด กล่าวคือ การซื้อขายทอง CFD นั้นจะไม่ใช่การซื้อขายทองคำจริง ๆ และผู้ซื้อจะไม่ได้เป็นเจ้าของทองคำจริง ๆ แต่เป็นเพียงการเก็งกำไรบนการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำที่เคลื่อนไหวเท่านั้น 

การทำงานของสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) จะอนุญาตให้นักลงทุนวางเงินเพียงบางส่วนของสัญญาซึ่งเป็นสัญญาที่มีขนาดเล็กกว่าการลงทุนในสัญญาล่วงหน้า (Gold Futures) ทำให้การลงทุนใน CFD นั้นใช้เงินลงทุนตั้งต้นน้อย สเปรดต่ำ ไม่มีค่าคอมมิสชั่น มีความได้เปรียบจากอัตราทดช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับนักลงทุน ทั้งยังสามารถทำกำไรได้ทั้งจากส่วนต่างราคาทองคำทั้งทิศทางขาขึ้นและขาลงไม่ต่างจากการลงทุนในฟิวเจอส์เลย ในขณะที่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่ามาก

การซื้อขายสัญญาซื้อขายส่วนต่างทองคำทำได้ทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน และตลอด 5 วันทำการของสัปดาห์ เพียงแค่นักลงทุนสมัครใช้บริการโบรกเกอร์ที่เสนอบริการซื้อขาย CFD ที่มักเสนอแอปพลิเคชั่นสนับสนุกการเทรดที่ทำให้นักลงทุนจับทุกความเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้ตลอดเวลา ต่างกับการซื้อทองคำแท่งและการลงทุนในกองทุนทองคำที่จะสามารถซื้อขายได้ที่ราคาเดียว คือ ณ ราคาที่ร้านทองกำหนดในแต่ละวัน หรือราคา NAV. ตอนสิ้นวันของกองทุนทองคำ

และด้วยความคล่องตัวประกอบกับการใช้เงินลงทุนตั้งต้นน้อย แต่ยังคงความสามารถในการทำกำไรไว้ในระดับสูงจากการใช้อัตราทด และมีความได้เปรียบจากการทำกำไรได้ทั้งในทิศทางราคาขาขึ้นและขาลง เครื่องมืออย่างสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ทองคำจึงเหมาะกับการทำกำไรบนความผันผวนของราคาทั้งในระดับเล็กไปจนถึงการทำกำไรในรอบใหญ่ ด้วยเงินลงทุนที่ไม่มาก CFD ทองคำ จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญตัวหนึ่งที่นักเทรดทั่วโลกนิยมใช้ และเหมาะกับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการเข้าถึงการลงทุนทองคำในตลาดโลกโดยตรง

ทั้งนี้การลงทุนในสินทรัพย์อย่างทองคำเพียงอย่างเดียว เราจะพบได้ว่ามีเครื่องมือที่สร้างความเป็นไปได้ของการทำกำไรอยู่มากมาย ทั้งการซื้อทองคําแท่งเก็งกําไร การซื้อขายกองทุนทองคำ การลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า หรือแม้แต่การซื้อขายทองคำ CFD และเครื่องมือแต่ละชนิดก็มีจุดเด่นจุดด้อย มีลักษณะเฉพาะแตกต่างกัน ทั้งยังช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับนักลงทุนได้แตกต่างกันด้วย ดังนั้นเพื่อให้การลงทุนเป็นไปอย่างราบรื่นและบรรลุจุดมุ่งหมาย นักลงทุนจึงควรตั้งเป้าหมายการลงทุนของตัวเองให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถเลือกเครื่องมือที่จะส่งไปถึงเป้าหมายของตัวเองได้อย่างเหมาะสมต่อไป

*** ลงทุนมีความเสี่ยง CFD อาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน