สถานการณ์ราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะทรงตัวอีกครั้ง หลังจากที่ราคาทองคำในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีความผันผวนอยู่พอสมควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียกับประเทศยูเครนเริ่มมีการส่งสัญญาณที่ผ่อนคลายความตึงเครียดลงไปบ้างแล้ว
เช่นเดียวกับสถานการณ์ของธนาคารกลางประเทศสหรัฐอเมริกาหรือ FED ยังคงไม่มีท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการคลังกับการรับมือภาวะเงินเฟ้อที่เป็นอยู่ในขณะนี้ โดยในเวลานี้ ทาง FED ได้มีการประชุมหารือในการวางแผนการปรับอัตราดอกเบี้ย และจะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการคลัง ซึ่งรายงานตรงนี้ถือเป็นจุดสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตามองในเวลานี้
ซึ่งสถานการณ์ภาวะเงินเฟ้อที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทำให้ทางนักวิเคราะห์จากธนาคารนานาชาติของประเทศจีนได้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า เวลานี้ภาวะเงินเฟ้อเริ่มเป็นตัวพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ยังคงคลี่คลายไม่ได้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมทองคำยังคงถูกเลือกเป็นสินทรัพย์สำคัญที่คาดว่า จะเอาชนะภาวะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว
นักวิเคราะห์อีกฝั่งได้กล่าวเหมือนกันว่า ทันทีที่ธนาคารกลางของประเทศสหรัฐอเมริกาได้เริ่มส่งสัญญาณในการปรับอัตราดอกเบี้ยแล้ว หากมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ มีความเป็นได้สูงที่ราคาทองคำจะมีการปรับตัวลดลง แต่อาไม่ได้มีการปรับตัวลดลงมา และการปรับอัตราดอกเบี้ยนี้ก็ส่งผลให้ราคาพันธบัตรมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ส่วนสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียกับประเทศยูเครนนั้น การส่งสัญญาณถอยทัพของประเทศรัสเซียนั้น ทำให้นักลงทุนเริ่มหันมาจับตาสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกไม่แพ้เรื่องของภาวะเงินเฟ้อกับภาพรวมของตลาดทุนหลายแห่งที่ยังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้ว่าทางประเทศรัสเซียได้มีการถอนกำลังแล้วก็จริง แต่เริ่มมีสมาชิกรัฐสภาของประเทศรัสเซียได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำรัสเซียรับรองพื้นที่บางส่วนของประเทศยูเครนให้เป็นพื้นที่เอกราช ซึ่งการทำแบบนี้ยังคงเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่า วิกฤตความขัดแย้งตรงนี้อาจจะยังไม่จบลงง่าย ๆ ตรงจุดนี้อาจทำให้หลายฝ่ายเริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นว่า ทางรัสเซียอาจมีการเดินเกมลักษณะเดียวกับไครเมียที่ได้มีการประกาศว่า เป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย
เมื่อมาดูกราฟราคาทองคำแบบ Day นั้น จะเห็นได้ว่า ในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนขึ้นลงของราคาพอสมควร อันเนื่องมาจากปัจจัยสถานการณ์ระหว่างประเทศรัสเซียกับประเทศยูเครน จากกราฟล่าสุดนั้น เป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์โดยรวมเริ่มคลายความตึงเครียดหลังจากที่รัสเซียได้ถอนกองกำลังออกไปแล้ว และสอดคล้องกับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่จะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
คาดว่าราคาทองคำอาจมีการเคลื่อนไหวทรงตัวบริเวณกล่องสีดำ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาทองคำจะมีการเปลี่ยนทิศทางแบบรุนแรงหากรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งผลกระทบในจิตวิทยาของนักลงทุนโดยตรง
เมื่อมาดูกราฟราคาทองคำแบบ 1 ชั่วโมงนั้น จะเห็นได้ว่า ราคาทองคำหลายชั่วโมงที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวแบบภาวะทรงตัว และจากนั้นเริ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดได้ว่าราคาทองคำอาจมีการเคลื่อนไหวในกรอบบริเวณกล่องใบใหญ่ ซึ่งหากราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวอยู่บริเวณกล่องใบนี้ เราอาจจะได้เห็นถึงความผันผวนที่เกิดขึ้นกับกล่องดำใบนี้
หากว่าทิศทางการประชุมของธนาคารกลางของประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการรายงานผลการประชุมแล้ว คาดได้ว่าจะสามารถคาดการณ์ทิศทางราคาทองคำได้ง่ายมากขึ้น เช่นเดียวกับสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์บริเวณพื้นที่รัสเซียกับยูเครนที่ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้ทิศทางเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะราคาโลหะชนิดต่าง ๆ นั้น เกิดความผันผวนขึ้นมาได้ง่าย เวลานี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำการลงทุนอย่างระมัดระวัง