สถานการณ์ราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา เริ่มแสดงให้เห็นถึงความผันผวนในกรอบแคบ ๆ บ้างแล้ว แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้ สอดคล้องกับในช่วงที่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเฉพาะเหรียญบิทคอยน์ (Bitcoin) มีการปรับตัวลดลงในระดับที่ต่ำกว่า $4 หมื่นแล้ว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในสัญญาณที่นักลงทุนทุกคนจะต้องทำการจับตาเฝ้าดูแบบไม่ให้คาดสายตา
ไฮไลท์สำคัญที่ต้องจับตาดูในอาทิตย์นี้ก็คือ การที่ทางธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาหรือ FED ได้มีการประชุมหารือกันภายในวันที่ 25-26 มกราคมที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งเรื่องนี้ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้ออกมาคาดการณ์แล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่ทางธนาคารกลางอาจดำเนินนโยบายการคลังแบบรัดเข็มขัด โดยอาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้เร็วกว่าที่คาดเอาไว เพื่อเป็นการสกัดภาวะเงินเฟ้อที่ยังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง
ราคาทองคำแม้ว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ติดต่อกัน จากการที่ภาวะเงินเฟ้อเป็นตัวเร่งให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น เช่นกันเมื่อมาดูราคาพันธบัตรแล้ว จะเห็นได้ว่ามีการปรับตัวลดลง เนื่องจากยังไม่ได้สัญญาณการปรับอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลานี้ แม้ว่าทางธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาหรือ FED จะมีการประกาศแล้วว่า อาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ก็ตาม จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่ราคาพันธบัตรมีการปรับตัวลดลงนั้น มีส่วนช่วยให้ราคาทองคำดีดตัวสูงขึ้น
ความผันผวนของราคาทองคำนั้น มาจากการที่ราคาทองคำได้มีการทดสอบแนวต้านอ่อนบริเวณที่ $1835 แม้ว่าราคาทองคำจะสามารถปรับเพิ่มขึ้นจนทะลุแนวต้านบริเวณนี้ได้สำเร็จก็จริง ทว่าเพียงไม่กี่วันราคาทองคำได้มีการปรับอ่อนตัวลงมาพอสมควร ซึ่งยังคงเป็นการปรับตัวลดลงในระดับที่ไม่หวือหวามากนัก มองได้ว่าการที่ราคาทองคำมีการย่อตัวลงแบบนี้ อาจมาจากการรอสัญญาณอะไรบางอย่างที่เป็นตัวเร่งให้ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวไปตามกลไกทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
เรื่องนี้ทางด้านนักวางกลยุทธ์ตลาดได้กล่าวเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า ภาวะกระทิงในตลาดทองคำนั้น ดูเหมือนยังมีปัจจัยบางอย่างที่กดไม่ให้ราคาพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากเวลานี้ตลาดทองคำยังคงถูกจัดอยู่ในสินทรัพย์การลงทุนที่มีความปลอดภัยสูง และเช่นกันยังมีการมองอีกว่า ทองคำไม่ได้เป็นการลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ แต่เป็นการลงทุนเพื่อแก้เกมความผิดพลาดจากทางธนาคารกลางของสหรัฐมากกว่า ซึ่งหากว่าราคาทองคำสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับที่น่าพอใจได้ นั่นก็หมายความว่า ธนาคารกลางได้มีท่าที่เปลี่ยนแปลงนโยบายที่ได้มีการตัดสินใจเอาไว้ก่อนหน้านี้
เมื่อมาดูกราฟราคาทองคำแบบ Day นั้น จะเห็นได้ว่า ราคาทองคำยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะกระทิงอย่างที่ใครหลายคนได้คาดการณ์กันเอาไว้ แม้ว่าจะมีกระแสของภาวะเงินเฟ้อเข้ามาเป็นตัวเร่งให้ราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอยู่บ้าง แต่ภาวะความไม่แน่นอนหลายอย่างได้เข้ามาฉุดไม่ให้ราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเกินไป
บริเวณเส้นที่ขีดเอาไว้สีแดงนั้น เป็นไฮไลท์สำคัญที่จะต้องมาดู ซึ่งหากว่าราคามีการปรับตัวทะลุลงไป ก็จะต้องมาลุ้นต่อไปว่า ราคามีโอกาสที่จะทะลุเส้นสีดำลงไปหรือไม่ ซึ่งหากว่าราคามีการทำทะลุเส้นสีดำจริง มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาทองคำอาจเข้าสู่ภาวะขาลงอีกครั้ง
เมื่อมาเปลี่ยนจากกราฟราคาทองคำเป็นแบบ 1 ชั่วโมงแล้ว จะเห็นได้ว่า กราฟได้มีการทำแนวรับสำคัญเอาไว้ที่บริเวณเส้นสีแดง ซึ่งปัจจัยระยะสั้นนั้น หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กราฟแบบอาจบ่งชี้ให้เห็นว่า การทำกราฟแบบนี้อาจกลายเป็นการสร้างแนวรับที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลกกับข้อมูลข่าวสารที่อาจทำให้กราฟที่สร้างแนวรับมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา